"จตุพร"เชื่อสู้กับทหาร ไล่ "ประยุทธ์" ไม่ยาก ขอเพียงทุกฝ่ายร่วมมือกัน

เมื่อ 18 มี.ค. 2564 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงรัฐสภามีมติคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องรับผิดชอบเต็ม ๆ ในฐานะเป็นผู้แถลงนโยบายรัฐบาลเร่งด่วนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ  
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ใช้เงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเข้าร่วมรัฐบาล เพราะตอนหาเสียงเลือกตั้งได้ประกาศว่า จะไม่ร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ แต่เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วมติพรรคบอกให้เข้าร่วมจนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องลาออกจากหัวหน้าพรรค ปชป.  

ดังนั้น เงื่อนไขเดียวที่จะเข้าร่วมรัฐบาลคือ ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญและต้องบรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาล เมื่อเดินมาถึงจุดนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบด้วยการถอนตัวออกจากรัฐบาล  
นายจตุพร กล่าวว่า ตนใช้เวลาไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคู่ขัดแย้งในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา มองสถานการณ์ภายใต้สภาพบ้านเมืองที่เป็นอยู่เช่นนี้ ควรจะมีความคิดอ่านกันอย่างไร เพราะหากคิดแบบเดิมก็จะจบแบบเดิม  
"โดยส่วนใหญ่ต่างก็มีความเป็นห่วงในชาติบ้านเมือง และเริ่มมองเห็นปัญหาชาติที่ไม่แตกต่างกัน ผมจึงบอกว่าควรจะถึงเวลาสามัคคีประเทศไทยกันสักรอบ" 
นายจตุพร กล่าวว่า การต่อสู้เพื่อล้มทหารก็ผ่านกันมาหลายรอบแล้ว เพียงแต่หลังจากนั้นอำนาจก็ส่งไปให้นักการเมือง และนักการเมืองก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ดังนั้น การสู้กับทหารนั้นไม่เป็นเรื่องยาก แต่ล้มได้แล้วควรให้ได้นักการเมืองดีมาสานต่อด้วย 
อีกอย่าง มีการเรียกร้องการปฏิรูปทางการเมืองมาไม่รู้กี่ครั้ง หากต้องคิดข้ามไปว่าต้องเอาชาติเป็นหลัก ถ้าเดินไปภายใต้กติกาเช่นนี้ก็ไม่สามารถเดินต่อได้ หากล้มพวกนี้ก็ได้พวกนั้นกลับมา ตนจึงบอกว่าอย่างที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพูดเรื่องวงจรอุบาทว์เป็นความจริงที่สุด มันสลับอำนาจกันระหว่างนักการเมืองกับทหาร แต่ประชาชนไม่เคยสลับมีแต่ตาย เจ็บ หรือติดคุก   

"วันนี้การพูดคุยของทุกฝ่ายกำลังจะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เพราะหากประชาชนไม่ขัดแย้งกัน ประชาชนก็จะมีพลัง ผมไม่เชื่อว่าประชาชนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสามารถจัดการกับอำนาจนี้ได้โดยลำพัง ต้องรวมกันทุกฝ่ายภายใต้ข้อเรียกร้องเดียวคือพล.อ.ประยุทธ์ ออกไป ที่เหลือจะเป็นกฎกติกาของประเทศที่ต้องมาคิดอ่านกัน"