เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่รัฐสภา การประชุมร่วมกันของรัฐสภา โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เปิดการประชุมในเวลา 09.50 น. โดยประธานรัฐสภา ได้หยิบยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญขึ้นมาหารือในที่ประชุม ซึ่งนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายยืนยันว่า รัฐสภาไม่สามารถ ลงมติวาระ3 ได้ และหากจะเลื่อนการลงมติออกไปก่อน เพื่อทำประชามติ ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีการเสนอญัตติด่วนในที่ประชุม โดยนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ขอให้รัฐสภาลงมติว่า ไม่สามารถลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ได้ เนื่องจากคำวินิจฉัยกลางของศาล ชี้ชัดว่ารัฐสภา ต้องทำประชามติ ทั้งก่อนและหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ขณะที่จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอญัตติด่วน ขอให้รัฐสภาพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยอำนาจของรัฐสภา ในการลงมติวาระ 3 เพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะยังมีความเห็นต่างกัน รวมทั้งขอให้ศาลทำให้ประเด็นอื่นๆ มีความกระจ่างด้วย โดยเฉพาะร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังแก้ไขอยู่ขณะนี้ ถือว่าเป็นร่างตกไปทั้งฉบับหรือไม่ รวมถึงประเด็นในการจัดทำประชามติ ว่าต้องดำเนินการเมื่อใด
จากนั้นก็มีการเปิดให้สมาชิกรัฐสภาอภิปรายกันอย่าวกว้างขวาง เช่น นายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นท้วงติงว่า การเสนอญัตติของนายสมชาย และนายจุรินทร์ แม้มีผู้รับรองถูกต้อง แต่เป็นการเสนอซ้อนญัตติกัน เป็นเหตุให้ญัตติแรกที่เสนอเป็นอันตกไป จึงเกิดการถกเถียงไปมา จากนั้น นายชวน ประธานรัฐสภา วินิจฉัยว่า สามารถดำเนินการร่วมกันได้ เพราะเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน
จากนั้นนายนิกร จำนง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ได้อภิปรายเสนอความเห็น ขอให้ชะลอหรือเลื่อนลงญัตติไปก่อน เพื่อหาข้อสรุปให้ชัดเจนว่าสถานะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร เพื่อให้เกิดความชัดเจนในแนวทางปฎิบัติ รวมถึงการทำประชามติหากมีการทำเพิ่มอีก 1 ครั้ง ต้องใช้กฎหมายใดรวมถึงจะกำหนดคำถามลักษณะใดบ้าง