ตุลาการเสียงข้างน้อย ชี้ แก้ม.256ทำได้แค่รายมาตรา
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย จากมติ 8 ต่อ 1 เสียง ชี้ ไม่สามารถแก้มาตรา 256 เพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับได้ ให้ทำได้แค่แก้รายมาตราเท่านั้น
ตุลาการศาลรธน.เสียงข้างน้อย ระบุ ม.256 เป็นบทบัญญัติเพื่อให้หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ต้องทำตามขั้นตอนของมาตรา 256 เท่านั้น ไม่สามารถแก้มาตรา 256 เพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มายกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้
15 มี.ค. 64 - ผู้สื่อข่าวรายงานผลการลงมติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ในคำร้องตามญัตติที่สมาชิกรัฐสภาเข้าชื่อกันเสนอคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งสุดท้ายที่ประชุมมีมติ 8 ต่อ 1 พบว่า 1 เสียงที่เป็นเสียงข้างน้อยคือ นายจิรนิติ หะวานนท์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มาจากอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โดยตำแหน่งสุดท้ายก่อนมาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คือ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา
ที่น่าสนใจคือนายจิรนิติ แม้จะเป็นตุลาการเสียงข้างน้อย แต่พบว่า เป็นเสียงข้างน้อยที่ลงมติว่า มาตรา 256 เป็นบทบัญญัติเพื่อให้หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ต้องทำตามขั้นตอนของมาตรา 256 เท่านั้น ไม่สามารถแก้มาตรา 256 เพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มายกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ จึงมีความเห็นและลงมติว่าไม่สามารถแก้มาตรา 256 เพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับใหม่ได้ ให้ทำได้แค่แก้รายมาตราเท่านั้น
ขณะที่การลงมติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 8 เสียง พบว่า ก็มีความเห็นที่แตกต่างกันในรายละเอียดค่อนข้างมาก เช่น รายละเอียดหากจะแก้มาตรา 256 เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องทำอย่างไร โดยตุลาการเสียงข้างมากหลายคน ก็เห็นไม่ตรงกัน แต่ความคิดหลักๆ ก็เป็นไปตามมติของที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีมติออกมาว่า
"รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง"
15 มี.ค. 64 - ผู้สื่อข่าวรายงานผลการลงมติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ในคำร้องตามญัตติที่สมาชิกรัฐสภาเข้าชื่อกันเสนอคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งสุดท้ายที่ประชุมมีมติ 8 ต่อ 1 พบว่า 1 เสียงที่เป็นเสียงข้างน้อยคือ นายจิรนิติ หะวานนท์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มาจากอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โดยตำแหน่งสุดท้ายก่อนมาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คือ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา
ที่น่าสนใจคือนายจิรนิติ แม้จะเป็นตุลาการเสียงข้างน้อย แต่พบว่า เป็นเสียงข้างน้อยที่ลงมติว่า มาตรา 256 เป็นบทบัญญัติเพื่อให้หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ต้องทำตามขั้นตอนของมาตรา 256 เท่านั้น ไม่สามารถแก้มาตรา 256 เพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มายกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ จึงมีความเห็นและลงมติว่าไม่สามารถแก้มาตรา 256 เพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับใหม่ได้ ให้ทำได้แค่แก้รายมาตราเท่านั้น
ขณะที่การลงมติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 8 เสียง พบว่า ก็มีความเห็นที่แตกต่างกันในรายละเอียดค่อนข้างมาก เช่น รายละเอียดหากจะแก้มาตรา 256 เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องทำอย่างไร โดยตุลาการเสียงข้างมากหลายคน ก็เห็นไม่ตรงกัน แต่ความคิดหลักๆ ก็เป็นไปตามมติของที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีมติออกมาว่า
"รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง"