ต้นตอของเรื่องนี้มาจากกรณี นายสุวัฒน์ ศรีสด ตัวแทนชมรมครูชีวิตใหม่แห่งชาติ เข้าร้องเรียนต่อดีเอสไอ อ้างว่า นายณัชภณ วงส์วิเศษ ประธานกองทุนอิสระสวัสดิการสงเคราะห์สัจจะออมทรัพย์เพื่อสวัสดิการสังคม เข้าไปขอพบสมาชิกชมรมครูชีวิตใหม่แห่งชาติ แล้วชวนให้ระดมเงินออมคนละ 10 บาทต่อวัน เดือนหนึ่งก็ 300 บาท โดยออมกันเรื่อยมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว
จากนั้นนายณัชภณก็ติดต่อกับคณะกรรมการบริหารชมรมครูชีวิตใหม่แห่งชาติ ขอเงินไปหลายครั้ง อ้างว่าเพื่อนำไปเปิดบัญชี และเตรียมความพร้อมต่างๆ รองรับเงินโอนจากต่างประเทศเพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินครู โดยครั้งหลังสุดเป็นการชักชวนลงทุนสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล คนละ 44 เหรียญ หรือ 1,100 บาท มีครูร่วมลงทุน 8 พันกว่าคน ได้เงินไปกว่า 8 ล้านบาท สุดท้ายรวมความเสียหายที่เกิดขึ้นกว่า 20 ล้านบาท
นี่คือข้อกล่าวหาของนายสุวัฒน์ ตัวแทนชมรมครูชีวิตใหม่แห่งชาติ ที่นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนกับดีเอสไอ ซึ่ง พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ ได้มอบหมายให้รองอธิบดี รับเรื่องไว้ตรวจสอบ
หลังจากเรื่องนี้เป็นข่าวออกไป ปรากฏว่ากลุ่มครูที่เป็นสมาชิกกองทุนอิสระสวัสดิการสงเคราะห์สัจจะออมทรัพย์เพื่อสวัสดิการสังคม นำโดย นายณัชภณ ได้แสดงความไม่พอใจ จึงไปรวมตัวกันกว่า 1,000 คนที่ดีเอสไอ โดยกลุ่มครูที่เดินทางมา เป็นสมาชิกกองทุนจาก 61จังหวัดทั่วประเทศ ได้นำหลักฐานเอกสารการลาออกของสมาชิกบางราย และการโอนเงินคืนให้กับอดีตสมาชิก เข้าชี้แจงเพื่อโต้ข้อกล่าวหาโกงเงินสมาชิก
นายณัชภณ กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนฯ เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย วันนี้จึงมาแสดงความบริสุทธิ์ และนำเอกสารมายืนยันความถูกต้องของกองทุนที่ถูกโจมตีว่าเป็นองค์กรเถื่อน ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยเอกสารทั้งหมดเป็นการยืนยันว่า กองทุนนี้จัดตั้งมาอย่างไร ส่วนรายละเอียดขอให้เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ถ้าตนผิดยินดีรับโทษทุกอย่าง แต่ถ้าตนไม่ผิด ดีเอสไอต้องนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อตอบสังคมให้ได้ว่าใครโกงเงินใคร ใครไปเอาเงินครูมา / บรรยากาศดุเดือดพอสมควร ให้คุณผู้ชมไปดูภาพพร้อมกัน
ด้าน พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ กล่าวภายหลังรับเรื่องจากกลุ่มครูว่า จะตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร มีการทุจริตหรือไม่ มีการนำเงินออมออกไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของกองทุนหรือไม่ โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะทางฝั่งกองทุนฯก็มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ต่อมา นายณัชภณ พร้อมคณะครู ได้เดินทางต่อไปยังสถานีโทรทัศน์ 3 แห่งที่นำเสนอข่าวพาดพิง โดยหนึ่งในนั้นคือ "เนชั่นทีวี" โดย นายณัชพน และตัวแทนกลุ่มครู ได้พบกับผู้บริหารเนชั่นทีวี พร้อมชี้แจงว่า กองทุนฯจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และยังอยู่ภายใต้มูลนิธิมุจลินท์นาคราช จึงไม่ใช่องค์กรเถื่อน มีครูเป็นสมาชิกทั่วประเทศ
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของกองทุนเพื่อช่วยเหลือครูที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องหนี้สิน ยืนยันว่าครูทุกคนเต็มใจเป็นสมาชิก ไม่มีใครไปเกณฑ์มา และเมื่อมีคนลาออก ก็คืนเงินให้กับครูเหล่านั้นทั้งหมด แล้วแบบนี้จะเรียกว่าโกงได้อย่างไร คนที่โกงไม่ใช่พวกตน แต่เป็นแกนนำครูจากอีกชมรมหนึ่งมากกว่า จึงขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนนำเสนอข่าวด้วย เพราะข่าวที่ออกมาทำให้เงินจากต่างประเทศที่จะเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มครูหยุดชะงัก กองทุนฯได้รับความเสียหาย
หลังจากได้พูดคุยทำความเข้าใจกัน ปรากฏว่าทาง นายณัชภณ และคณะครู พึงพอใจ และได้เดินทางกลับไป โดยก่อนเดินทางกลับยังได้ปรบมือแสดงความชื่นชม และหวังว่าปัญหาหนี้สินครูจะได้รับการแก้ไข
มีข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่มครูว่า ที่ผ่านมามีสมาชิกกองทุนฯ 8,530 คน แต่หลังจากมีข่าวทำให้มีสมาชิกบางส่วนลาออกไป แต่ทางกองทุนฯก็จ่ายเงินคืนให้ทุกคน