svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

ผบช.ภาค5ยันคดีผู้ต้องหาฉ้อโกงจบชีวิตตัวเอง

06 มีนาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เชียงใหม่ ผบช.ภาค 5 แถลง คดีฉ้อโกง เผยคำนึงถึงความปลอดภัยใช้อากาศยานจับความร้อนประเมินถึงบุกเข้าชาร์ตแต่พบเป็นศพไปแล้ว ยืนยันผู้เสียชีวิตไม่ได้จับภรรยาเป็นตัวประกันตามที่มีสื่อบางสำนักกล่าวอ้าง ทั้ง 3 สมัครใจใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด ขณะที่น้องชายเชื่อว่าพี่ชายไม่ยอมมอบตัวแน่ และจะใช้วิธีจบชีวิตตัวเอง ขณะที่แม่ไม่ติดใจการตาย ลูกชายไลน์มาลา บอกแม่เป็นแม่ที่ดีที่สุดและ ฝากดูแลลูก

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 มีนาคม 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือกอ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก พ.ต.อ.ฐานันดร วิทยาวุฑฒิกุลนักพิสูจน์หลักฐาน สบ.4 พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยญาติของผู้เสียชีวิต จากกรณีเหตุ นายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปี และ นางสาวอาณดาปิยะรักษ์ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกง พร้อมกับ นางสาววิชุดาเสียมศักดิ์ อายุ 22 ปี ภรรยาอีกคนของนายสุเมธ ที่กักตัวเอง ในห้องพักคอนโดมิเนียมซอยข้างธนาคารแห่งประเทศไทยสาขาภาคเหนือ อ.เมืองเชียงใหม่เจ้าหน้าได้บุกเข้าไปภายในห้องพักพบทั้ง3 รายเสียชีวิตทั้งหมด คาดว่านายสุเมธครองวงศ์ จะเป็นผู้ยิงภรรยาทั้ง 2 ก่อนที่จะยิงตัวตายหนีความผิด ร่วมแถลงข่าวในคดีดังกล่าว

ผบช.ภาค5ยันคดีผู้ต้องหาฉ้อโกงจบชีวิตตัวเอง


พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่าเนื่องจากในช่วงเกิดคดีนี้ขึ้นมามีสื่อมวลชนบางสำนักได้นำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนจึงอยากชี้แจงรายละเอียดให้ตรงตามกัน โดยเฉพาะเรื่องการจับภรรยาเป็นตัวประกันนั้นทางผู้ตายไม่ได้มีการบังคับให้ภรรยาทั้ง 2 คนอยู่ด้วย แต่ภรรยาทั้ง 2คนยืนยันที่จะอยู่ด้วยกัน ไม่มีการกักตัวไว้เพื่อเป็นตัวประกัน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากได้รับการจาก สน.คลองตัน มีหมายจับนายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปี และ นางสาวอาณดา ปิยะรักษ์ อายุ 18 ปีและทราบว่าเข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้สืบค้นจนพบสถานที่พักอาศัยและผู้เสียชีวิตไม่ยอมมอบตัว เจ้าหน้าที่จึงตรึงกำลังเฝ้าไว้ทางผู้เสียชีวิตจึงได้แจ้งญาติ ในลักษณะที่เหมือนจะขอลาจากไปเป็นข้อความที่ไม่เป็นมงคล



ทางญาติจึงเดินทางมาเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 น้องชายของนายสุเมธ เดินทางมาถึงเชียงใหม่ และได้คุยผ่านทางไลน์ ทางนายสุเมธ ได้ขอให้น้องชายขึ้นไปรับบุตรออกมา ซึ่งขณะนั้นภายในห้องมี นายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปี นางสาวอาณดา ปิยะรักษ์ อายุ 18 ปี นางสาววิชุดา เสียมศักดิ์ อายุ 22 ปี และลูกสาวของนายสุเมธ อายุกว่า 1 ปี น้องชายจึงขึ้นไปรับลูกของนายสุเมธ โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปด้วย โดยนายสุเมธ และ น.ส.อาณดา ถือเครื่องใช้ของเด็ก ส่วนน.ส.วิชุดา อุ้มเด็กอยู่ โดยเปิดประตูพอที่จะส่งของให้ และหันไปถาม ผู้หญิงทั้ง 2 คนว่าจะไปด้วยมั๊ย ซึ่งทั้ง 2 ปฏิเสธที่ออกไปกับเด็ก นายสุเมธจึงปิดประตู บอกตะโกนบอกว่า ให้เดินไปเลย แล้วให้ดูแลลูกด้วย จึงเห็นได้ว่าสุเมธไม่ได้จับใครไว้เป็นตัวประทัน ผู้หญิงทั้งคนสมัครใจที่จะอยู่กับนายสุเมธ

ผบช.ภาค5ยันคดีผู้ต้องหาฉ้อโกงจบชีวิตตัวเอง

หลังจากได้ยินเสียงปืน ในเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 5 มีนาคม 2564 ก็ไม่สามารถติดต่อกับนายสุเมธได้ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถติดต่อกับ ผู้หญิงทั้ง 2 คนได้ เนื่องจากญาติไม่มีเบอร์ติดต่อ สำหรับญาติของผู้หญิงทั้ง 2 คน ในช่วงวันที่ 5 มีนาคม 2564 ได้ติดต่อญาติของ น.ส.วิชุดา ซึ่งอยู่ที่จังหวัดระนอง และกำลังเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประเมินสถานการณ์ให้เฝ้าระวังไว้ และให้ตรึงกำลัง จนกระทั่งช่วงเช้าไม่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น จึงได้บุกเข้าไปจนพบผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน

สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้าไปในช่วงที่มีเสียงปืนเกิดขึ้นในทันที เนื่องจากตามยุทธวิธีไม่สามารถประเมินได้ว่าเสียงปืนที่ได้ยินเกิดขึ้นอย่างไร เพราะมองไม่เห็นต้องหาขอมูลให้ครบถ้วนเพื่อประเมินสถานการณ์ การเข้าชาร์ต ต้องหาข้อมูลอย่างละเอียด จนถึงช่วงเช้าได้ใช้อากาศยานจับความร้อนประเมินแล้วจึงได้ให้เจ้าหน้าบุกเข้าชาร์ต โดยทำการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ซึ่งจากข้อมูลของญาติเชื่อว่าผู้เสียชีวิตจะใช้วิธีจบชีวิตตัวเองสำหรับกรณีการตั้งครรภ์ของน.ส.วิชุดานั้น ขณะนี้ขอให้ทางนิติเวช สรุปผลออกมาให้ชัดเจนก่อน


ผบช.ภาค5ยันคดีผู้ต้องหาฉ้อโกงจบชีวิตตัวเอง


พ.ต.อ.ฐานันดร วิทยาวุฑฒิกุล นักพิสูจน์หลักฐาน สบ.4 พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงเวลา 09.30 น. วันที่ 6 มีนาคม 2564 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปในพื้นที่ ภายในห้องพบผู้เสียชีวิต 3 ศพ ในสภาพที่แข็งตัวแล้ว คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 10-12 ชั่วโมง ทั้ง 3 ศพ มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะศพละ 1 แผล เก็บหลักฐานเป็นปลอกกระสุน เครื่องกระสุน อาวุธปืนพร้อมแม็คกาซีน 2 แม็ค หลักฐานอื่นๆ มีซิมการ์ด บัตรเครดิต คอมพิวเตอร์ ซึ่งได้ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว

ผบช.ภาค5ยันคดีผู้ต้องหาฉ้อโกงจบชีวิตตัวเอง


นายมิน น้องชายของนายสุเมธ กล่าวว่า ได้พยายามติดต่อให้พี่ชายมอบตัว แต่พี่ชายปฏิเสธ รวมทั้งผู้หญิงทั้ง 2 คน ต่างพร้อมใจที่จะอยู่ด้วยกัน โดยขออยู่ตรงนี้ด้วยกันให้นานที่สุด หากเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาจะจบชีวิตตัวเอง โดยคุยกันผ่านทางไลน์ หลังจากนั้นในวันที่ 5 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 15.00 น. แม่ของนายสุเมธ ได้ขึ้นไป หวังจะพูดคุยให้สุเมธมอบตัว

โดยก่อนที่จะไปถึงห้องพักได้ตะโกนบอกว่าขอเข้าไปคุยด้วย แค่ แม่ พี่ น้อง เท่านั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปด้วย แต่ไม่มีเสียงตอบรับ หลังจากนั้นได้เคาะประตูเรียก และใช้กุญแจไข แต่ยังติดคีย์การ์ดจึงไม่สามารถเปิดได้ พอได้ยินเสียงไขกุญแจ ก็ได้ยินเสียงปืนทันที ติดต่อกัน 4 นัด นายมิน พยายามเอาหูแนบที่ประตู แต่ไม่ได้ยินเสียงภายในห้อง ซึ่งคิดไว้อยู่แล้วว่าพี่ชายจะจบชีวิตตัวเองแน่นอน เพราะจากที่อยู่ด้วยกันมาจะรู้ว่า นิสัยพี่ชายดี

ผบช.ภาค5ยันคดีผู้ต้องหาฉ้อโกงจบชีวิตตัวเอง


ขณะที่ แม่ของนายสุเมธ กล่าวว่า ไม่ติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนายสุเมธได้ไลน์บอกแล้ว ขอลาแม่ก่อน และขอบคุณที่เลี้ยงเค้ามา แม่เป็นแม่ที่ดีที่สุด ฝากให้ดูแลลูกด้วย ปกติสุเมธเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่สุงสิงกับใคร ส่วนใหญ่จะติดต่อสุเมธผ่านไลน์ เพราะสุเมธจะไม่รับโทรศัพท์ใครทั้งนั้น ก่อนหน้านี้ไม่เคยทราบว่า สุเมธทำงานอะไร ที่ไหนครอบครัวไม่เคยรับรู้เลย เพิ่งทราบว่าสุเมธมีหมายจับเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา

logoline