นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สารอะฟลาท็อกซินถูกสร้างจากเชื้อราในตระกูล Aspergillus มักพบปนเปื้อนผลผลิตทางการเกษตรหากเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง เช่น ข้าวโพด ถั่วลิสง และเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ พริกไทย พริกป่น กระเทียม และหอมแดง เป็นต้น สารอะฟลาท็อกซินเป็นอันตรายทั้งในมนุษย์และสัตว์ มีความสามารถในการทนความร้อนได้สูง
ซึ่งความร้อนที่ใช้ในการหุงต้มอาหารโดยทั่วไปตามบ้านเรือนนั้นไม่สามารถทำลายสารดังกล่าวให้หมดไปได้ เมื่อมีการปนเปื้อนสารพิษดังกล่าวในอาหารและร่างกายได้รับสารนี้ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับ เช่น โรคตับอักเสบเรื้อรัง และมะเร็งตับ เป็นต้น ซึ่งความเป็นพิษที่ส่งผลต่อร่างกายของแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับปริมาณสารพิษที่รับ ความถี่ที่ได้รับเข้าสู่ร่างกาย อายุ และความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายในแต่ละตัวบุคคล
- เจออีก!! ผลกระทบจาก "แอสตราเซเนก้า" ทำให้เกิดแผลพุพอง
- ส่งใจช่วย ‘น้าค่อม’ ล่าสุดมีอาการ ‘ปอดอักเสบมาก-ไตวาย’
- ฎีกายืนสั่งคุก 2 ปี 'ศิริโชค' อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ หมิ่นประมาทเจ้าของโรงแรมดัง
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า ควรเลือกซื้ออาหารที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่สมบูรณ์ ไม่แตกหรือชำรุด มีส่วนประกอบและมาตรฐานความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ ซื้อวัตถุดิบในปริมาณที่พอเหมาะและสดใหม่ เพื่อลดเวลาในการเก็บวัตถุดิบไม่ให้นานเกินไปและจัดเก็บอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการเก็บไว้ในบริเวณที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง