ผบ.ตร.แจงชัดไม่มีตำรวจเอี่ยวไอซ์ 1.5 ตัน
ตั้งโต๊ะแถลงผลการสอบสวนไอซ์ 1.5 ตัน "ผบ.ตร." ยัน ไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำผิดของตำรวจทั้ง 2 นาย ชี้ การสร้างความเคลือบแคลงสงสัย เป็นการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือต่อขบวนการยุติธรรมและสตช.หลังมีเอกสารหลุดเพียงชิ้นเดียว แต่ไม่ใช่หลักฐานทั้งหมด ถ้ามีสตช.ไม่สามารถปิดได้ เพราะทำงานด้วยกันหลายหน่วย
จากกรณีอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ได้อภิปรายเรื่องมีนายตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตร 2 นาย มีชื่อเกี่ยวข้องกับ คดีการจับยาไอซ์ ที่จ.ตาก เมื่อปี 2562 โดยได้อ้างหนังสือ บันทึกข้อความด่วนที่สุด ที่ 0001 (สส) 150 ถึง ผบช.ภ.6 เพื่อให้เร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดี และสอบถามเหตุผลที่ ภ.6 ไม่ปรากฎรายชื่อข้าราชการตำรวจ 2 นายที่ถูกผู้ต้องหาซักทอดในสำนวนการสอบสวนในคดีจับยาไอซ์ 1,500 กิโลกรัม ที่ด่านตรวจความมั่นคงร่วมบ้านห้วยยะอุ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อตุลาคม ปี 2562
วานนี้ (5 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ รอง ผบช.ภ.6 ผู้แทนสำนักงานอัยการภาค 6 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และนายรณชัย เกิดมณี นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ กองคดี 2 สำนักงาน ปปง. ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มี 2 นายตำรวจยศ พล.ต.ท.และพ.ต.อ. ถูกผู้ต้องหาซัดทอดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาไอซ์ น้ำหนัก 1,500 ก.ก. ที่ถูกจับกุมได้ใน จ.ตาก เมื่อปี 2562
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ยอมรับว่า ในคดีนี้ มีเอกสารบางส่วนหลุดไปสู่สาธารณชน จนทำให้สังคมตั้งข้อสงสัย ซึ่งเป็นเพียงภาพที่ผู้ต้องหา ชี้ไปยังภาพของตำรวจยศพล.ต.ท. นายหนึ่ง และมีเพียงคำอ้างว่า พบเห็นนายตำรวจนายนี้ อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดอื่น ๆ ได้ ส่วนตัวจึงได้สั่งการให้มีการตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำผิด และเห็นว่า เอกสารที่หลุดออกมา ไม่ใช่หลักฐานทั้งหมดของคดี ยืนยันว่า การสืบสวนสอบสวนคดี มีการทำงานร่วมกันหลายหน่วย หากมีหลักฐานความผิดชัดเจนจริง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่สามารถปิดบังได้ จึงมองว่า การบิดเบือนข้อมูลลักษณะนี้ ต้องการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่า ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะยังเห็นว่าตำรวจทั้ง 2 นายที่ถูกกล่าวอ้างก็ยังมีการพูดคุยกัน ส่วนในเรื่องเอกสารหลุดสู่สาธารณชนขณะนี้สั่งให้จเรตำรวจเร่งตรวจสอบหาที่มา-ที่ไป
ในการแถลงข่าว พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 6 ได้ชี้แจงถึงการจับกุมคดียาเสพติดดังกล่าว โดยระบุว่า แม้ผู้ต้องหาจะพาดพิงถึงตำรวจ 3 คน แต่จากการสืบสวน ยังไม่มีหลักฐาน นำไปสู่การแจ้งข้อหาสมคบฯ ได้ เพราะมีเพียงแค่คำกล่าวอ้างจากผู้ต้องหา จึงไม่มีความจำเป็นต้องเรียกตัวมาสอบสวน อีกทั้งการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา ก็ไม่พบมีความเชื่อมโยงกับตำรวจที่ถูกพาดพิง
เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เปิดเผยว่า ประเด็นนี้ได้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี2562 จนถึง ปัจจุบัน พบว่าการดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ส่วนที่ผู้ต้องหามีการซัดทอดถึง 2 นายตำรวจ ซึ่งต้องดำเนินการตรวจสอบนั้นขณะนี้ยังไม่พบว่ามี 2 นายตำรวจเชื่อมโยง
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า ได้ร่วมสืบสวนขยายผลกับเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2552 ในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ โดยสามารถจับกุมยาบ้า 26,000 เม็ด และ อาวุธปืน พร้อมผู้ต้องหา นายฐปนันท์ ธรรมรัตน์ธาดา หรือ หนูเฉิน ถูกดำเนินคดีก่อนจะมีการต่อสู้คดียาเสพติดจนไม่พบความผิด แต่ถูกดำเนินคดีในฐานอาวุธปืน 1 ปี ทำให้ผู้ต้องหาไปรู้จักนักค้ายาเสพติดในเรือนจำก่อนขยายหลายเครือข่าย หลังพ้นโทษก็ได้มีการสร้างเครือข่ายขึ้นอีกหลายเครือข่ายกระทั่งเจ้าหน้าที่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าไอซ์ 1,500 กิโลกรัม