2 มีนาคม 2564 บริเวณลานม่วงขาว โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งใช้เป็นสถานที่บริการฉีดวัคซีนโควิด-19ในส่วนของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ยังคงเดินทางมารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำหนดเป้าหมายในการฉีดจำนวน 210 คน ในจำนวนดังกล่าวมีบุคลากรภาครัฐด่านหน้า นำโดยนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยรองผู้ว่าฯ และหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้ารับการฉีดวัคซีนด้วย ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบใครมีความผิดปกติ โดยมีนายผดุงเกียรติ อุทกเสนีย์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และผู้บริหาร มาร่วมให้กำลังใจ
นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวถึงผลการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า วันแรกจำนวน 50 คน ว่า จากการตรวจสอบข้อมูล ยังไม่พบความผิดปกติหรืออาการข้างเคียงของผู้ที่ฉีดวัคซีนดังกล่าวไปแต่อย่างใด โดยทุกคนยังมีอาการเป็นปกติ ส่วนของการฉีดในวันนี้ ( 2มี.ค.64) นอกจากบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขแล้ว ยังมีหัวหน้าส่วนราชการที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสมาร่วมฉีดด้วย อาทิ ผู้ว่าฯ, รองผู้ว่าฯ, ปลัดจังหวัด เป็นต้น ในสัดส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งทำงานด่านหน้า
ขณะที่นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด ซึ่งอยากฝากไปถึงประชาชนที่ยังมีความกังวล ว่า วัคซีนเป็นคำตอบหนึ่งหนึ่งที่จะมาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้วิสัยทัศน์ไว้ว่า เศรษฐกิจจะต้องได้รับการฟื้นฟูโดยไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาเรามีมาตรการในเรื่องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือและรักษาระยะห่างสำหรับวัคซีนถือเป็นมาตรการที่เพิ่มเข้ามาซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่า จะทำให้โอกาสของการแพร่ระบาดลดน้อยลง โดยสิ่งที่เราจะสร้างสำหรับภูเก็ต คือ ทำอย่างไรให้ภูเก็ตมีความปลอดภัย หากสามารถฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมมากเท่าใดก็จะยิ่งทำให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น ขณะเดียวกันคนที่จะมาหากผ่านกระบวนการฉีดวัคซีนหรือกระบวนการใดก็ได้ เมื่อ 2 ฝ่ายมาเจอกันเชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดปัญหา การท่องเที่ยวก็สามารถเดินหน้าไปได้
สำหรับจังหวัดภูเก็ตได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ในล๊อตแรก จำนวน 4,000 โดส สำหรับการฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายจำนวน 2,000 คน เป้าหมายตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ใน 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 1,500 คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งทำงานอยู่ด่านหน้าซึ่งสัมผัสกับผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความเสี่ยง จำนวน 500 คน จากนั้นในล๊อตต่อไปเดือนเมษายน จำนวนประมาณ 16,000 โดส ถัดมาในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมอีกประมาณ 48,000 โดส
รวมทั้งสิ้นในช่วง 3 เดือนแรก ระหว่างมีนาคม-พฤษภาคม จำนวน 68,000 โดส ซึ่งจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด ได้แก่ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข กลุ่มบุคลากรที่ทำงานอยู่ด่านหน้าซึ่งเสี่ยงสัมผัสกับผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความเสี่ยง, กลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มที่มีโรคประจำตัว, กลุ่มพี่น้องประชาชนที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวและสัมผัสกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่ทำงานอยู่ในวิลล่าควอรันทีน เป็นต้น และกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
อย่างไรก็ตามจากการสอบถามพนักงานขับรถรับจ้างบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า การมีวัคซีนจะทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น แต่ขอที่จะไม่ฉีดในระยะเริ่มต้น โดยขอดูไปอีกสักระยะ หากผู้ที่ฉีดไปแล้วไม่มีปัญหาก็พร้อมฉีด เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยดูข่าว พบว่ามีคนฉีดแล้วมีอาการข้างเคียง จึงต้องการให้มั่นใจก่อน เพราะหากมีปัญหาหรือเกิดอาการข้างเคียงก็จะกระทบกับการดำรงชีวิต เพราะทุกวันนี้ก็แย่มากพอแล้ว