svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

โลกประณามกองทัพเมียนมาสลายม็อบสุดนองเลือด

01 มีนาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้นำทั่วโลกร่วมประณามเมียนมาที่ใช้กำลังสลายผู้ชุมนุมครั้งนองเลือดที่สุดทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คนในวันเดียวเมื่อวานนี้ และยังมีผู้ถูกจับกุมอีกเกือบ 1,000 คน

โฆษกสำนักงานสหประชาชาติ เปิดเผยแถลงการณ์ของอันโตนิอู กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ที่ระบุว่า การใช้กำลังกับผู้ประท้วงที่ชุมนุมอย่างสันติและการจับกุมตามอำเภอใจเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมกันส่งสัญญาณที่ชัดเจนให้กองทัพเมียนมาเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนเมียนมาที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว และยุติการปราบปรามประชาชน

โลกประณามกองทัพเมียนมาสลายม็อบสุดนองเลือด


ขณะเดียวกันโจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปออกแถลงการณ์ยืนยันว่า อียูจะดำเนินมาตรการตอบโต้ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา และย้ำให้กองทัพหยุดใช้กำลังกับพลเรือนทันที และอนุญาตให้ประชาชนใช้สิทธิในการแสดงความเห็นและชุมนุมได้อย่างเสรี
เมื่อเร็วๆนี้อียูมีมติเห็นพ้องให้คว่ำบาตรกองทัพเมียนมาสืบเนื่องจากการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.และให้ระงับความช่วยเหลือด้านการพัฒนา แต่ยังยังอยู่ในขั้นสรุปรายละเอียดและจะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อประกาศอย่างเป็นทางการ

โลกประณามกองทัพเมียนมาสลายม็อบสุดนองเลือด


นอกจากนี้แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ร่วมประณามกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของพม่าที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วง และทวีตย้ำว่าสหรัฐยืนหยัดเคียงข้างกับความกล้าหาญของประชาชนชาวพม่า และขอให้ทุกประเทศเปล่งเป็นเสียงเดียวสนับสนุนเจตนารมณ์ของพวกเขา
นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศตุรกีประณามการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของกองทัพเมียนมา และแสดงความกังวลว่าเสถียรภาพในเมียนมากำลังถดถอยหลังการรัฐประหาร และสำนักงานกิจการต่างประเทศอังกฤษ เรียกร้องให้เมียนมายุติความรุนแรงและฟื้นฟูประชาธิปไตย

โลกประณามกองทัพเมียนมาสลายม็อบสุดนองเลือด


สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ว่า มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย และผู้บาดเจ็บ 30 คนจากการปราบปรามผู้ประท้วงในหลายเมืองของเมียนมาเมื่อวันอาทิตย์ ที่เป็นการนองเลือดมากที่สุดนับตั้งแต่การรัฐประหาร และเชื่อว่ามีผู้ชุมนุมถูกจับกุมอีกราว 1,000 คน

logoline