svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

ดันเครื่องประดับอีสานใต้สู่ตลาดโลก

01 มีนาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นครราชสีมา - กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าเสริมศักยภาพพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับชนเผ่า เอกลักษณ์วัฒนธรรมแห่งแดนอีสานใต้ สร้างแบรนด์ต่อยอดโกอินเตอร์ สู่ตลาดโลก

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 มีนาคม 2564 ที่โรงแรมสีธานี อ.เมือง นครราชสีมา นายวีรศักดิ์  หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมนายจรัสชัย  โชคเรืองสกุล รอง ผวจ.นครราชสีมา ,นายสุเมธ  ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ,นายศารุมภ์  โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน ร่วมเปิดโครงการพัฒนาอัตลักษณ์ ยกระดับเครื่องประดับอีสานใต้ ก้าวไกลโกอินเตอร์ ( ESAN More Dern)  กิจกรรมมีบรรยายความรู้เกี่ยวกับการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่เครื่องประดับอัตลักษณ์อีสานใต้ ทั้งการพัฒนารูปแบบ คุณภาพ และ มาตรฐานสินค้า รวมทั้งขยายโอกาสทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการเครื่องประดับ และยกระดับสินค้าให้ได้รับการ ยอมรับทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ 










แสดงนิทรรศการเครื่องประดับชนเผ่าดินแดนอีสานใต้ รวมทั้งมีการเรียนรู้แอพพลิเคชั่นที่ปรึกษา โดยใช้ชื่อว่า "CARAT" (กะรัต) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและผู้สนใจในภูมิภาคได้สอบถาม ข้อมูลเกี่ยวกับอัญมณีและเครื่องประดับ โดยสถาบันได้จัด กูรู ที่มีความรู้ทั้งด้านอัญมณี โลหะมีค่า และการ ออกแบบ พร้อมให้บริการอย่างครบวงจร แพลตฟอร์มให้คำปรึกษาด้านอัญมณีและเครื่องประดับโดยเฉพาะ ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง แอพพลิเคชั่นดังกล่าว เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีแล้ว ผ่านระบบ IOS และ Android 











ดันเครื่องประดับอีสานใต้สู่ตลาดโลก












นายวีรศักดิ์ ฯ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า "ในฐานะที่ได้กำกับดูแล การดำเนินงานของ GIT ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลด้านอัญมณีและเครื่องประดับโดยเฉพาะ ได้มอบหมายให้สถาบัน ลงพื้นที่พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการพัฒนา คุณภาพบุคลากร การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ ตลอดจนถึงการพัฒนาช่องทางการตลาดใหม่ๆ และสามารถสร้าง รายได้ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้เพิ่มขึ้นเมื่อปี 2563 นี้ ที่เกิดวิกฤติโควิด 19 จึงได้เร่งให้สถาบันได้ลงไปพัฒนา เครื่องประดับชนเผ่า เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมแห่งดินแดนอีสานใต้ (อีสานเดิ้น) ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งมีส่วนช่วยให้เกิดการกระจายรายได้ให้แก่ช่างฝีมือและ ผู้ประกอบการทั้งในภูมิภาค 




ดันเครื่องประดับอีสานใต้สู่ตลาดโลก







อย่างเช่นท้องถิ่นในโคราช ที่มีการนำดินด่านเกวียนมาออกแบบเป็นเครื่องประดับ สามารถสร้างมูลค่าให้กับดินด่านเกวียนซึ่งถือได้ว่าเป็นดินที่มีลักษณะเฉพาะให้มีมูลค่าเพิ่มกว่าเดิมมากมาย หลายเท่าตัว และจากผลของโครงการดังกล่าว ซึ่งถือได้ว่ามีผลตอบรับที่ดีมาก จึงได้มอบหมายให้สถาบัน ดำเนินการต่อยอดเพื่อพัฒนาศักยภาพและขยายผล สู่การต่อยอดโครงการเครื่องประดับอีสานใต้สู่สากล (อีสาน มอร์เดิ้น) ในปี 2564 ที่มุ่งเน้นความสามารถในการพัฒนาด้านเทคนิคการผลิตและการออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างแบรนด์ เพิ่มการเข้าถึงช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ นำไปสู่การสร้าง รายได้ให้ชุมชนพึ่งตัวเองได้ในระยะยาวต่อไป 






ดันเครื่องประดับอีสานใต้สู่ตลาดโลก




นายสุเมธ ฯ ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในภูมิภาค (Gems Treasure) ถือได้ว่าเป็นโครงการ สำคัญของสถาบันที่ได้ลงไปบูรณาการร่วมกับส่วนงานต่างๆ ซึ่งปัจจุบันได้ลงพื้นที่ไปแล้วกว่า 15 จังหวัด โดยพัฒนาคุณภาพบุคลากร พัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการพัฒนาช่องทางการตลาดใหม่ๆ สามารถสร้าง รายได้เพิ่มขึ้น และมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ในปี 2563 ที่ผ่านมาจึงได้ดำเนินโครงการเครื่องประดับชนเผ่า เอกลัษณ์ ทางวัฒนธรรมแห่งดินแดนอีสานใต้ (อีสานเดิน) ซึ่งมีผู้ประกอบการและผู้สนใจเข้าร่วมการฝึกอบรมทั้งสิ้น 417 ราย และ หลังจากนั้น เราได้คัดเลือกผู้เข้าร่วมฝึกอบรมจนเหลือเพียง 20 ราย จาก 5 จังหวัด เพื่อมาทำงานร่วมกับ นักออกแบบมืออาชีพ เกิดเป็นเครื่องประดับร่วมสมัยที่แสดงถึงอัตลักษณ์แห่งท้องถิ่นถึง 5 คอลเลคชั่น ตั้งเป้าหมายในการลงพื้นที่ 5 จังหวัดต่อเนื่อง นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี คัดเลือกผู้ประกอบเหลือเพียง 20 ราย มาสร้างสรรค์ผลงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ และนักออกแบบ แถวหน้าของประเทศ เพื่อพัฒนา และออกแบบเครื่องประดับต้นแบบที่มาจากแนวคิดสร้างสรรค์ และอัตลักษณ์ ของ "อีสานใต้" อย่างแท้จริง พร้อมขยายสู่สากล 

logoline