svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

กทม.เปิด16 รพ.พร้อมฉีดวัคซีนโควิด คาดเริ่มฉีดมี.ค.นี้

25 กุมภาพันธ์ 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้ว่าฯกทม. โชว์สาธิตบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 เป็นต้นแบบให้สถานพยาบาลกลุ่มเป้าหมายในกทม.นำไปปฏิบัติ และเตรียมความพร้อม เผย 16 รพ.พร้อมบริการฉีดทั่วกรุงเทพ คาดเริ่มฉีดได้ภายในเดือน มี.ค.นี้ หลังได้รับวัคซีนจาก สธ.

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้อง เยี่ยมชมการสาธิตการให้วัคซีนและประชาชน ณ โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน โดยการสาธิตการให้วัคซีนกรุงเทพมหานครได้เชิญผู้แทนโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ 6 เขต ที่ให้บริการวัคซีน โควิด-19 ในระยะแรก รวมทั้งสิ้น 16 โรงพยาบาล ได้แก่  1.เขตจอมทอง ประกอบด้วย โรงพยาบาลบางขุนเทียน / โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล /และโรงพยาบาลบางมด  /  2.เขตบางขุนเทียน ประกอบด้วย โรงพยาบาล พีเอ็มจี / โรงพยาบาลนครธน  /และโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน /  3.เขตบางแค ประกอบด้วย โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค / โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ / และโรงพยาบาลบุญญาเวช 

กทม.เปิด16 รพ.พร้อมฉีดวัคซีนโควิด คาดเริ่มฉีดมี.ค.นี้


4.เขตบางบอน ประกอบด้วย โรงพยาบาลบางปะกอก 8   / และโรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ  /  5.เขตภาษีเจริญ ประกอบด้วย โรงพยาบาลบางไผ่ / โรงพยาบาลมิตรประชา (เพชรเกษม 2) / และโรงพยาบาลพญาไท 3  / 6.เขตหนองแขม ประกอบด้วย โรงพยาบาลวิชัยเวชอินเตอร์เนชั่นแนลหนองแขม / และโรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโร อุทิศ 

สำหรับวัคซีนโควิด-19 ที่กรุงเทพมหานครจะได้รับจากรัฐบาลในระยะแรก มีจำนวน 66,000 โดส ซึ่งจะสามารถให้ประชาชนได้จำนวน 33,000 คน เนื่องจาก ต้องให้วัคซีนคนละ 2 โดสหรือ 2 เข็ม ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 2-4 สัปดาห์  โดยกลุ่มเป้าหมายการให้วัคซีนโควิด-19 ระยะแรก ซึ่งมีวัคซีนจำนวนจำกัด ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวน 12,400 คน 
กำหนดให้วัคซีนในสัปดาห์แรก เพื่อเฝ้าสังเกตอาการหากมีอาการไม่พึงประสงค์จะสามารถให้การดูแลได้อย่างทันท่วงที จากนั้นสัปดาห์ที่ 2 จะให้วัคซีนแก่ อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด 19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ด้านการพยาบาลพอสมควร ซึ่งหากเกิดอาการไม่พึงประสงค์จะสามารถดูแลตนเองได้ในระดับหนึ่ง จำนวน 1,600 คน 
กลุ่มต่อไป คือ กลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรคเสี่ยงคือ 1.โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง 2.โรคหัวใจและหลอดเลือด 3.โรคหลอดเลือดสมอง 4.โรคไตเรื้อรัง 5.โรคมะเร็งทุกชนิด ที่อยู่ระหว่างเคมีบำบัด รังสีบำบัดและภูมิคุ้มกันบำบัด 6.โรคเบาหวาน 7.โรคอ้วน ที่มีอายุ 18-59 ปี จำนวน 47,000 คน และกลุ่มสุดท้าย คือ ประชาชนทั่วไปและแรงงาน (อายุ 18-59 ปี) จำนวน 5,000 คน สำหรับขั้นตอนการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน /ขั้นตอนที่ 1 เป็นการลงทะเบียน (ทำบัตร) เพื่อยืนยันตัวตน  / ขั้นตอนที่ 2 ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต / ขั้นตอนที่ 3 คัดกรอง ซักประวัติ และลงนามใบยินยอมการรับวัคซีน  /  ขั้นตอนที่ 4 รอฉีดวัคซีน  /  ขั้นตอนที่ 5 เข้ารับการฉีดวัคซีน / 

ขั้นตอนที่ 6 จะให้ผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนทุกรายนั่งพักรอสังเกตอาการจนครบ 30 นาที โดยได้จัดให้มีพื้นที่ปฐมพยาบาล แพทย์ พยาบาล และอุปกรณ์ช่วยชีวิตสำหรับการดูแลผู้ที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดวัคซีน และมีการแนะนำวิธีการใช้ Line Official Account "หมอพร้อม" เพื่อติดตามอาการหลังการฉีดวัคซีน 1 วัน 7 วัน 30 วัน และรับการแจ้งเตือนเพื่อฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 รวมถึงผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน COVID-19 ครบทั้ง 2 เข็ม จะได้รับใบยืนยันการฉีดวัคซีน COVID-19 ทาง Line Official Account "หมอพร้อม" อีกด้วยขั้นตอนที่ 7 จุดตรวจสอบก่อนกลับบ้าน เจ้าหน้าที่จะสอบถามอาการ ให้คำแนะนำ และออกใบนัดการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 และจะมีการแสดงผล Dash Board จาก Line Official Account "หมอพร้อม" แสดงการประเมินผลความครอบคลุมทุกกระบวนการการบริการ การติดตามอาการไม่พึงประสงค์ของวัคซีนที่เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจในความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีนที่ได้รับ
นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าวถึงความพร้อมของ รพ.ในสังกัดกรุงเทพมหานคร ว่า บุคลากรของกรุงเทพมหานครมีประสบการณ์ในการฉีดวัคซีน แต่สิ่งที่ประชาชนต้องเตรียมคือ ต้องมีการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิฉีดวัคซีน และลงเวลานัดหมาย เลือกโรงพยาบาลที่สะดวก เพื่อประหยัดเวลาในการรอคอย อย่างไรก็ตามหากไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า กรุงเทพมหานครได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้คอยอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนในระบบหมอพร้อม และทำการนัดหมายให้
ในการฉีดวัคซีนเข็มแรกและเข็มที่สองควรไปฉีด ณ โรงพยาบาลเดียวกัน และเมื่อถึงวันนัดหมายฉีดวัคซีน ให้เตรียมร่างกายให้พร้อม รับประทานอาหารและดื่มน้ำตามปกติ มาถึงโรงพยาบาลก่อนเวลานัดหมาย หากมีไข้สามารถโทร.มาเลื่อนนัดได้

logoline