23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ มีรถยนต์กระบะแต่งซิ่งมาชนผังที่ตั้งเป็นเกาะกลางถนน จนเกิดล้อแตกไปต่อไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ ผงะ เจอยาบ้าที่ห่อเป็นมัดอยู่เบาะข้างคนขับหน้ารถ เชิญตัวไปสอบสวนตรวจนับ ที่ห้องสืบสวน สภ.ราษีไศล ทราบ ชื่อคนขับรถ ที่ประสบอุบัติเหตุเบื้องต้น นายนิติพงษ์ แก่นวงษ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ที่ 16 ตำบลบ่อแก้ว อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ รับสารภาพว่าเป็นคนขับรถยนต์กระบะแต่งซิ่ง ยี่ห้อเชฟโรเลต หมายเลขทะเบียน 2 ฒญ 3178 กรุงเทพมหานคร
รับสารภาพว่าขับรถจากจังหวัดศรีสะเกษ ขึ้นไปรับยาเสพติดที่จังหวัดมหาสารคาม เมื่อวานนี้ หลังจากรับเสร็จได้ขับรถกลับมาทันที ขณะเดินทางเกิดง่วงนอน จึงได้แกะยาเสพติด (ยาบ้า) เสพไป 1 เม็ด ขับมาเรื่อย ๆ มาหมดฤทธิ์ยาเมื่อเข้าเขตราษีไศล เกิดหลับในขณะขับรถ รถจึงพุ่งชนถังน้ำมันที่วางไว้เป็นเกาะกลางถนน ล้อหน้าด้านขวาแตกไปต่อไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาช่วย จึงมาเจอยาเสพติดจำนวน 20,000 เม็ด ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจสอบหลักฐานเข้าตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือพร้อมสารคัดหลั่ง เพื่อแนบประกอบสำนวนดำเนินคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพ ต่อไป
ขณะเดียวกันเมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ ได้ไล่ล่าผู้ที่ขนยาเสพติดผ่านพื้นที่กำลังจะขนส่งออกไป เชื่อว่าตามแนวชายแดน เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้โยนยาเสพติดทิ้งข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบพบยาบ้า ห่อเป็นมัด จำนวน 2 มัด แกะตรวจสอบเบื้องต้น จำนวน 4,000 เม็ด จากนั้นชุดสืบสวนได้ลาดตระเวนติดตามไล่ล่าต่อ เข้าเขตตำบลตาอุด อำเภอขุขันธ์ ในช่วงเช้าของวันนี้ พบเห็นห่อวัสดุวางทิ้งข้างทางจึงเข้าตรวจสอบ พบเป็นยาเสพติด ยาบ้า จำนวน 34 มัด นับได้ 68,000 เม็ด พร้อมกันนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่พบเห็นยาเสพติดวางทิ้งไว้ข้างถนนสายขุขันธ์ - วังหิน อีกจำนวน 1 มัด แกะนับดู มีจำนวน 2,000 เม็ด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรขุขันธ์สืบสวนติดตามหาผู้กระทำผิดต่อไป
จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับฝ่ายปกครอง ได้ติดตามไล่ล่าสืบสวน ร่วมมือกันในการกวาดล้างตามแผน 238 พิทักษ์ศรีนครลำดวน ที่มีการปล่อยแถวกวาดล้างไปเมื่อเร็วๆ นี้ ส่งผลให้นักค้ายาที่นำยาเสพติดเข้ามาจากต่างจังหวัด ต่างประเทศ ถูกกดดันอย่างหนัก ต้องปล่อยของทิ้งข้างทางก่อนจะพบเจ้าหน้าที่ทำการกวาดล้างจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามแผนต่อเนื่องต่อไป