"แพร วทานิกา"แจ้งความเอาผิด พนง.ถึงที่สุด

จากกรณีที่ แพร -วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา เจ้าของและดีไซเนอร์แบรนด์ "VATANIKA" ถูกพนักงานของบริษัทฯ บางคนร่วมกันลักลอบนำสินค้าของบริษัทฯ และสินค้าที่ไม่ได้ผลิตจากบริษัทฯ ไปแอบอ้างทำการขายให้แก่ลูกค้าในราคาที่ต่ำกว่าราคาปกติและไม่ผ่านการเห็นชอบจากบริษัทฯ รวมถึงหลอกลวงลูกค้าให้หลงเชื่อ โอนเงินจากการซื้อขายเข้าบัญชีส่วนตัวโดยมิได้โอนเงินนั้นคืนให้บริษัทฯ สร้างความเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียง

ล่าสุดเจ้าของแบรนด์ก็ไม่อยู่เฉย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ พร้อมกับทนายความ เพื่อนำหลักฐานข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่พักงานเพิ่มเติม ในการแจ้งความแก่ผู้กระทำผิด 
ด้านทนาย เล่าว่าส่วนของคดีความนั้นเป็นข้อมูลของเจ้าหน้าที่จริงไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ในส่วนของความผิดนั้นเกี่ยวน้องกับ การทำความผิดของพนักงานต่อบริษัท อย่างเช่น เรื่องทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นต้น นอกจากนั้น เมื่อมีการสืบค้นการกระทำผิดของเหล่าพนักงานทราบว่าได้กระทำความผิดมาแล้วร่วม 2 ปี และเมื่อประเมินมูลค่าความเสียหาย ณ ขณะนี้แล้ว เสียหายไปหลายล้านบาท 

ด้าน "แพร-วทานิกา"เล่าด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า รู้สึกเสียใจและจุก เพราะไม่คิดว่าคนที่ไว้ใจจะทำกันได้ลง ซึ่งหลังจากที่สืบสาวราวเรื่องต่าง ๆ มานั้น ก็ยังไม่ได้รับคำขอโทษ หรือติดต่อมาแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ดีไซน์เนอร์ดัง ได้กล่าวเพิ่มว่าเหตุที่ออกมาดำเนินเรื่องครั้งนี้ เพื่อเป็นแสดงเจตจำนงที่บริสุทธิ์ของทางบริษัท ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตพนักงานแต่อย่างใด
สำหรับเรื่องราวการกระทำผิดครั้งนี้ เป็นประเด็นขึ้นมาเนื่องจากมีลูกค้าได้แจ้งเข้ามาว่า สินค้าของแบรนด์ไม่ได้คุณภาพ ทางแบรนด์จึงนำมาตรวจสอบและพบว่า สินค้าดังกล่าวไม่ได้ผลิตที่บริษัท แต่มีชื่อของบริษัทติดอยู่ เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมก็มีหลักฐานการโอนเงิน ต่าง ๆ เข้ามาที่ อดีตพนักงงานแต่ไม่มีการโอนเข้ายังบริษัทแต่อย่างใด จึงเรียกตัวเหล่าผู้กระทำผิดมาสอบถาม และเกิดการยอมรับว่าทำผิดจริง 

โดยก่อนหน้าที่ดีไซน์เนอร์ชื่อดังจะเดินทางเข้าแจ้งความนั้นเจ้าตัวได้ ออกประกาศการพ้นสภาพพนักงานคนดังกล่าวให้ได้ทราบกันแล้วผ่านโลกออนไลน์ ซึ่งในเนื้อหาบางส่วนนั้น กล่าวว่า พนักงานคนดังกล่าวมีความใกล้ชิด และทำงานกันมานานร่วม 8 ปี ซึ่งเมื่อประกาศฉบับนี้เผยแพร่ไปทาง แบรนด์จะไม่รับผิดชอบการกระทำใดใดของอดีตพนักงานทั้งสิ้น 
ทนายความทิ้งท้ายว่า นอกจากประเด็นพนักงานบริษัทแล้ว ยังมีการดำเนินเรื่องเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ ที่มีการก็อปปี้ก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งอันไหนมีหลักฐานก็จะดำเนินเรื่องทีเดียว