"เมียนมา" ประท้วงใหญ่วันนี้ คาดคนหลายล้านเข้าร่วม-กองทัพขู่พร้อมใช้ความรุนแรง "ถึงชีวิต"

หากเกิดขึ้นการผละงานทั่วประเทศในวันนี้ ก็จะเป็นการบันทึกลงในหน้าประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของประเทศ ในฐานะการลุกฮือทั่วประเทศครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2531 หรือ 8888 เมื่อผู้คนนับล้านออกไปตามถนนเพื่อต่อต้านระบอบสังคมนิยมในขณะนั้น
การนัดหยุดงานตามแผนปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายว่าการปฏิวัติ 22222 เนื่องจากจะจัดขึ้นในวันที่ 22 เดือน 2 ปี 2021 ในวันนี้ ธุรกิจเกือบทุกแห่งในประเทศจะหยุดดำเนินการเนื่องจาก นักเคลื่อนไหวและคนดังต่างเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนเข้าร่วมในการประท้วง

ขณะที่เจ้าของร้านค้าและแม่ค้าในตลาดหลายราย แจ้งลูกค้าตั้งแต่เช้าวันเสาร์ว่าจะปิดทำการในวันจันทร์เพื่อเข้าร่วมการประท้วง อย่าง City Mart Holding ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของเมียนมา รวมทั้งศูนย์ค้าส่งของไทยในย่างกุ้งอย่าง Makro และธุรกิจส่วนตัวยอดนิยมอีกหลายแห่งประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่าธุรกิจของพวกเขาจะปิดในวันจันทร์
ทหารได้ดำเนินการปราบปรามการประท้วงบนท้องถนน ทุบตี และเปิดฉากยิงใส่ผู้ประ ท้วงอย่างสันติในหลายเมือง อย่างเมื่อวันเสาร์ มีพลเรือนอย่างน้อยสองคนถูกยิงเสียชีวิตในมัณฑะเลย์เมื่อตำรวจปราบจลาจลเปิดฉากยิงพวกเขา ที่ปกป้องคนงานอู่ต่อเรือของรัฐบาลที่เข้าร่วมกับในการอารยะขัดขืน
การจับกุมผู้นำการประท้วงและข้าราชการที่ปฏิเสธที่จะทำงานภายใต้ระบอบทหารก็ทวีความรุนแรงขึ้นในสัปดาห์นี้ แต่ชาวเน็ตหลายคนโพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า "ยิ่งกดขี่เราก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น"

นอกจากนี้ เมื่อวันเสาร์ ยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการนัดหยุดงานที่เกี่ยวข้องกับ 25 องค์กรจากแวดวงต่าง ๆ รวมถึงพรรคการเมือง สหภาพแรงงาน นักศึกษา ชาวนา กลุ่มศาสนา สตรี พระสงฆ์ แพทย์ ทนายความและกลุ่มนักเขียนเพื่อผลักดันให้ยุติการปก ครองแบบเผด็จการทหาร , การยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2008 และการจัดตั้งสหภาพประชาธิปไตย

ส่วนทางด้านกองทัพเมียนเตือนประชาชนอย่าเข้าร่วมการประท้วงในวันนี้ และขู่จะใช้กำลังถึงชีวิตกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยสถานีโทรทัศน์ MRTV ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเมียนมา เผยแพร่แถลงการณ์ของกองทัพ ซึ่งมีเนื้อหาเตือนชาวเมียนมาที่จะเข้าร่วมการประท้วงครั้งใหญ่ในวันนี้ ว่ากลุ่มผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่กำลังคึกคะนองและถูกปลุกระดม อาจจะต้องเผชิญกับผลกระทบที่ถึงแก่ชีวิต และหากกลุ่มผู้ประท้วงก่อความรุนแรง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมีความจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนในการยิงเพื่อสลายการชุมนุม