มีรายงานว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดไฟเขียวยุทธการทวงคืนผืนป่าบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน หลังจากนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มชาติพันธุ์ กะหร่างบ้านบางกลอย หลังจากเซ็นข้อตกลง 6 ข้อ ยังไม่ทันกรรมการ 3 เรียกประชุมหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหา ว่าข้อตกลง 6 ข้อ สิ่งไหนทำได้หรือไม่ได้ เนื่องจากบางข้อ ทำไม่ได้เพราะผิดกฎหมายอย่างชัดเจน แต่ชาวบ้านบางกลอย กลับไปบุกรุก โคนป่า ทำลายป่า แบบไม่สนว่า แผ่นดินไทย มีกฏหมายคุ้มครองพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยเฉพาะ พ.ร.บ อุทยานแห่งชาติ 2562 มีบทบังคับ ตามมาตรา ต่างๆ ให้คุ้มครองผืนป่าและสัตว์ป่า อย่างเคร่งครัด ไม่สามารถบุกรุกหรือเข้าไปล่าสัตว์ป่าได้
- ศาลให้ประกันชาวบางกลอยแล้ว ตั้งเงื่อนไขห้ามเข้าอุทยาน
- อาลัย ‘พระธรรมรัตนากร’ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ มรณภาพ
- ศบค. เผยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 65 ราย
ตามรายงาน ของนายธัญญา ที่ส่งถึงนายวราวุธ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.64 พบแปลงบุกรุกใหม่ อีก 12 จุด รวมแปลงบุกรุกก่อนนั้น 8 จุด เป็น 20 จุด และวันที่ 21 ก.พ. แผนบินสำรวจพบบุกรุกเพิ่มอีก 3 แปลง รวมถึงวันนี้ เป็น 23 แปลง เนื้อที่ มากกว่า 150 ไร่ เมื่อนายวราวุธ เห็นภาพจากรายงาน ได้สั่งการ ด่วนให้อธิบดีกรมอุทยานฯ เร่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และต้องรีบดำเนินการ อย่างโดยเร็ว เพราะถ้าชักช้าป่าแก่งกระจานพัง ราบ หมดแน่
ดังนั้นน.ส.เนตรนภา งามเนตร รักษาการหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้รวบรวมกำลังพล จากสำนักการบินกระทรวงทรัพย์ฯ ทหารพล ร 9 หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ 10 นาย ตชด 144 5 นาย ทหารค่ายฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน 12 นาย ฝ่ายปกครอง 10 นาย หน่วยพญาเสือ 10 นาย ส่วนยุทธการกรมอุทยานฯ 15 นาย จนท สบอ 3 สาขาเพชร 10 นาย จนท อช แก่งกระจาน 50 นายสนธิกำลัง 80 นาย เดินหน้าจับกุมผู้บุกรุกป่า/สัตว์ป่า และตั้งจุดสกัด สกัดกั้นผู้กระทำผิด กฎหมาย ทุกรูปแบบในพื้นที่ ตั้งแต่ ใจแผ่นดิน บางกลอยบน ผาใหญ่ ห้วยสามแพร่ง และ ห้วยเต่าดำ ครั้งนี้ไม่ให้โอกาสแก้ตัว ไม่เจรจา เจ้าหน้าที่จะไม่ถอยแม้สักก้าวเดียว