svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

โพลหนุน "บิ๊กตู่" ปรับครม.ใหญ่ให้รัฐบาลอยู่ยาว

21 กุมภาพันธ์ 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจพบว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่หนุนให้รัฐบาลทำงานต่อหลังจบศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมสนับสนุนให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง รัฐบาลได้ไปต่อ โดยสอบถามประชาชนจำนวน 2,930 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 20-21 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา
ถามถึงความพอใจของประชาชนต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พบว่า กลุ่ม 3 ป.ผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเกาะกลุ่มได้รับความพอใจจากประชาชน โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล แทรกเป็นอันดับสอง รองจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ได้คะแนนความพอใจสูงสุด
อันดับหนึ่ง คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ร้อยละ 44.7
อันดับสองได้แก่ นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ร้อยละ 41.3
อันดับสาม ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร้อยละ 39.9 เท่ากัน
อันดับห้า ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร้อยละ 39.5
อันดับหก ได้แก่ นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ร้อยละ 38.9 ตามลำดับ
ที่น่าสนใจ คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.8 ต้องการให้รัฐบาลปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด ร้อยละ 17.2 ต้องการปานกลาง และเพียงร้อยละ 5.0 เท่านั้นที่ต้องการค่อนข้างน้อย ถึง ไม่ต้องการเลย

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.4 ให้โอกาสรัฐบาลได้ไปต่อ เพราะรับมือวิกฤตโควิดได้ดีเห็นชัดเจนเปรียบเทียบต่างประเทศทั่วโลก แก้วิกฤตเศรษฐกิจกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนได้โครงการ คนละครึ่ง และอื่น ๆ ให้กำลังใจคนทำงาน เห็นผลงานเป็นรูปธรรมเส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ เห็นความเจริญ และเป็นรัฐบาลช่วงวิกฤตใหญ่ทำได้แบบนี้ก็ดีแล้ว ทำต่อไป
ในขณะที่ร้อยละ 20.6 ไม่ให้โอกาส เพราะไม่มีอะไรดีขึ้น แก้ปัญหาไม่ได้จริง ประชาชนกำลังจะอดตายอยู่แล้ว โครงการกระจายรายได้ถึงมือเฉพาะกลุ่มขาประจำ ไม่เห็นผลงาน เงินขาดมือ เป็นต้น
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.2 เชื่อมั่นค่อนข้างมาก ถึง มากที่สุด ต่อรัฐบาลในการทำงาน หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในขณะที่ร้อยละ 24.0 เชื่อมั่นปานกลาง และร้อยละ 19.8 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อย ถึง ไม่เชื่อมั่นเลย
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.1 ไม่เห็นด้วยกับการพาคนลงถนนของกลุ่มต่าง ๆ ที่เรียกร้องประเด็นละเอียดอ่อนด้านความมั่นคงและการเมือง

logoline