ส่วนเม็ดเงินโฆษณาแม้จะได้รับผลกระทบแต่บริษัทมีการกระจายรายได้ในส่วนอื่นๆ เพิ่มขึ้น จากการปรับโครงสร้างธุรกิจก่อนหน้านี้ไม่ได้พึ่งพิงจากรายได้โฆษณาอย่างเดียวจึงทำลดผลกระทบและยังสามารถสร้างกำไรปี 2563 พร้อมทั้งยังคงเบอร์1 ในช่องข่าวดิจิทัลท่ามกลางการแข่งขันและผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ตามภายใต้ปัจจัยลบดังกล่าวบริษัทยังมีผลประกอบการที่น่าพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมที่เผชิญการขาดทุน
ที่สำคัญภาระต้นทุนค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัลที่ต้องจ่ายให้กับกสทช.จะหมดลงในปีนี้จากกำหนดการจ่ายงวดสุดท้ายในเดือนพ.ค. เป็นมูลค่า 48 ล้านบาททำให้บริษัทฯ ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อีก
เล็งจ่ายปันผลครั้งแรกรอบ5ปี
"ภาวะเศรษฐกิจและผลกระทบที่เกิดขึ้น ถือว่าบริษัทฯ ยังรักษาฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งสะท้อนจากปีที่ผ่านมีการประกาศปรับฐานเงินเดือนพนักงานและโบนัส ซึ่งในปี 2564 จะมีการพิจารณาปรับโครงสร้างส่วนทุน อาจจะเป็นไปได้ทั้งการลดพาร์ หรือนำส่วนล้ำมูลค่าหุ้นส่วนส่วนทุน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อให้ NBC กลับมาจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นภายในปี 2564 นี้และยังถือว่าเป็นการกลับมาจ่ายปันผลครั้งแรกในรอบ 5 ปี"
สำหรับปี 2564 มองการเติบโตของรายได้ประมาณ 6% มาจากโฆษณา 35% โฮม ช้อปปิ้ง 30% เช่าเวลา 15% เนชั่น ออนไลน์ 5% คมชัดลึก 4% งานอีเวน 4% และอื่น 7% ภายใต้ปัจจัยวัคซีนมาเร็วและไม่มีการระบาดรอบใหม่ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการใช้จ่ายตามมาเนื่องจากตามแผนงานปีนี้เตรียมที่จะเพิ่มฐานรายได้และกลุ่มเป้าหมาย
ส่วนของงานข่าวยังคงจุดยืนเดิมในการนำเสนอข่าวที่ตามข้อเท็จจริงและรับผิดชอบต่อสังคมผ่านทั้งช่องทางทีวีดิจิทัลและออนไลน์ซึ่งในปีนี้ทางช่องทางออนไลน์จะเห็นการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นจากรายการใหม่ๆเพิ่มเข้ามาและแตกต่างจากช่องทางทีวีดิจิทัล
จากฐานผู้ชมส่วนใหญ่80 % อายุเฉลี่ย 40 ปีขึ้นนั้นจะเพิ่มกลุ่มเจอเนเรชั่นใหม่ๆ เข้ามาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์จะเริ่มเห็นตั้งแต่เดือนเม.ย.-พ.ค. นี้เป็นต้นไป ซึ่งการขยายช่องทางออนไลน์มากขึ้น จะส่งผลต่อรายได้โฆษณาที่เดิมจะเป็นการขายผ่านเอเยนซี่จะเป็นการเพิ่มจากผู้ประกอบการโดยตรง
"เนชั่น"ย้ำผู้นำสถานีข่าว
ขณะที่ธุรกิจอีเวนต์ ยังเตรียมงานใหญ่ไว้ถึง2 งาน คือ คมชัดลึก อวอร์ด ช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีและงานครอบรอบ 50 ปีเนชั่น ที่เดินทางมาครึ่งศตวรรษ เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำสถานีข่าว พร้อมนำเสนอเนื้อหาสาระที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งทั้งนี้ หากไม่เจอการระบาดและมีวัคซีนก็เชิื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ในส่วนนี้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง ที่สร้างรายได้ในปี2563 ที่ผ่านมายอมรับว่า การแข่งขันรุนแรงและในปีนี้การทำธุรกิจไม่ง่าย เนื่องจากเจอปัจจัยความเชื่อมั่นของสินค้าลดลง จากกรณีโฆษณาเกินจริงและกำลังซื้อที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจอย่างไรก็ตามบริษัทเตรียมเพิ่มรายได้อื่นในปีนี้โดยเฉพาะธุรกิจกาแฟ ภายใต้ แบรนด์ "เนชั่น คอฟฟี่ "
"เริ่มเปิดสาขาแรกที่อาคารเนชั่นในเดือนมี.ค.และจะขยายสาขาตามอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ ประมาณ 10 สาขาภายในปีนี้โดยมีจุดแข็งอยู่ที่การใช้กาแฟสายพันธุ์ในประเทศภายใต้คอนเทคฟาร์มเมอร์จากเกษตรคนไทยที่มีคุณภาพที่สำคัญประชาชนสามารถบริโภคได้ในราคาไม่แพงหรือราคาลดลง 40 % จากราคากาแฟแบรนด์ดัง...แต่มีคุณภาพเท่ากัน"