"เพื่อไทย" ชี้รัฐบาลบริหารล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ

31 มกราคม 2564 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำคณะ ส.ส. อาทิ นายครูมานิตย์ สังข์พุม ส.ส.จังหวัดสุรินทร์ นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.จังหวัดนนทบุรี และ นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคแถลง ประเด็นความเดือดร้อนของประชาชนที่สะท้อนถึงการบริหารงานของรัฐบาลที่ล้มเหลวทั้งในด้านเศรษฐกิจและโควิด-19 ทำให้เกิดปัญหาของใช้อุปโภค-บริโภคแพงโดยไม่มีมาตรการรองรับ
โดยยกตัวอย่างพริกสดที่เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าตัว ค่าลอตเตอรี่ที่ไม่สอดคล้องกับราคาต้นทุนจากยี่ปั๊ว เฉลี่ย 90 บาทต่อ 1 ใบจึงต้องขายเกินราคา 80 บาท และเกิดกระบวนการรับส่วยเพื่อไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่จับและปรับกว่า 2,000 บาท โดยตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับยี่ปั๊วเนื่องจากประชาชนไม่สามารถซื้อสลากได้โดยตรง เช่นเดียวกับเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวแพงตั้งแต่ราคา 44 บาทและส่วนต่อขยาย 104 บาท ซึ่งเป็นหัวใจหลักของคนกรุงเทพและเป็นการเอื้อให้กับ รฟม. ตามสัญญาสัมปทานที่จะหมดในปี 2572 ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐที่ต้องแก้ปัญหาการจราจรเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
ขณะเดียวกัน นายครูมานิตย์ กล่าวถึงการเรียกเก็บค่าเบี้ยยังชีพคนชราและเงินบำนาญคืนพร้อมดอกเบี้ยที่เป็นการซ้ำเติมประชาชน โดยมองว่าเป็นความผิดพลาดของระบบราชการ และวิงวอนให้รัฐบาลเดินหน้าแก้ระเบียบกรมบัญชีกลางโดยเร็ว เพราะส่วนใหญ่เป็นคนชราในต่างจังหวัดและในวันอังคารนี้ จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมพรรคเพื่อหารือและขับเคลื่อนช่วยเหลือประชาชนผ่านหน่วยงานต่างๆ 
ด้านนายยุทธพงศ์ทักท้วงว่า การจ่ายเงินเดือนและเงินบำนาญของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยรัฐมนตรีในคณะ มีความซ้ำซ้อนกันในส่วนของเงินค่าตำแหน่งและเงินบำนาญ นับเป็นจำนวน 45 เดือนรวมกว่า 10.88 ล้านบาท โดยมองว่าเป็นการรับเงิน 3 ทาง จึงตั้งคำถามว่าทำไมจึงไม่มีการเรียกเงินคืนแบบเดียวกับที่ดำเนินการกับผู้สูงอายุ เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้ประเทศ