ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. จากกรณีทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557
โดยนายเทพไท แถลงภายหลังว่า ส่วนตัวน้อมรับคำวินิจฉัยของศาล เมื่อคำตัดสินออกมาถือว่ามีผลผูกพันธ์ต่อทุกองค์กร ส่วนที่เป็นคดีอาญา อยู่ในขั้นตอนของศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา แต่เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา และเกิดข้อสงสัยในเรื่องคุณสมบัติ จึงต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และหากตนชนะคดีอาญาในศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา แต่สูญเสียสถานะความเป็น ส.ส.ไปแล้ว โดยไม่มีใครเยียวยา จึงเป็นจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพราะทั่วไปแล้ว ต้องให้คดีถึงที่สุดก่อน
อย่างไรก็ตาม แต่คดีของตนเองยังไม่ถึงที่สุด จึงเห็นว่า มีความจำเป็นที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) แก้ไขรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาในจุดบกพร่องของรัฐธรรมนูญต่อกรณีนี้ด้วย และย้ำว่าไม่โต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลแต่เป็นข้อกังวลเรื่องของรัฐธรรมนูญมากกว่าส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะส่งใครลงสมัครแทนนั้น เป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคจะจัดสรรใคร ซึ่งต้องรอให้คณะกรรมการสรรหาเสนอชื่อก่อน และส่วนตัวก็มีสิทธิ์เสนอชื่อเช่นกัน
ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ระบุว่า พรุ่งนี้ (28ม.ค.) จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ซึ่งคงจะได้มีการหารือกันเบื้องต้นถึงกระบวนการในส่วนของพรรค เพราะถือเป็นพื้นที่เดิมของพรรค ส่วนพรรคอื่นจะพิจารณาอย่างไรนั้น ก็เป็นส่วนของแต่ละพรรคการเมืองนั้นไป
สำหรับการพิจารณาส่งผู้สมัครต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนของพรรคก็มีข้อบังคับของพรรค และมีกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้งกำกับอยู่ ฉะนั้นกฎหมายและข้อบังคับว่าอย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น แม้การเลือกตั้งที่ผ่านมา คะแนนพรรคประชาธิปัตย์สูสีกับพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
ด้าน นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า พรรคยังไม่ได้หารือถึงเรื่องนี้ แต่เบื้องต้นส.ส.ภาคใต้ส่วนใหญ่เห็นตรงกัน พร้อมสนับสนุน นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ผู้สมัครคนเดิมของพรรค ซึ่งเป็นคู่แข่งกับนายเทพไท ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส่วนข้อสรุปที่ชัดเจนต้องรอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาแนวทางและตัวบุคคลที่เหมาะสมต่อไป