ทำเนียบขาว ระบุในแถลงการณ์ว่า "ประธานาธิบดีไบเดนเชื่อว่าอัตลักษณ์ทางเพศไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อการรับราชการทหารและความแข็งแกร่งของอเมริกานั้นพบได้จากความหลากหลายการอนุญาตให้ชาวอเมริกันที่มีคุณสมบัติทั้งหมดรับใช้ชาติในเครื่องแบบนั้นดีกว่าทั้งสำหรับกองทัพและสำหรับประเทศชาติ เพราะกองกำลังที่มีการรวมกัน เป็นกองกำลังที่มีประสิทธิภาพมากกว่าพูดง่าย ๆ ก็คือมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ควรจะทำและมันเป็นผลประโยชน์ของชาติ .
ตอนที่ ทรัมป์ ประกาศห้ามในเรื่องนี้ในปี2560 เขาบอกว่ากองทัพจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่ "ชัยชนะที่เด็ดขาดและท่วมท้น" โดยไม่ต้องรับภาระจาก"ค่ารักษาพยาบาลมหาศาลและการหยุดชะงัก" ของการมีบุคลากรข้ามเพศในกองทัพ
รายงานฉบับเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 โดย Palm Center กลุ่มถังความคิดของคนกลุ่ม LGBT ร่วมกับอดีตนายแพทย์ใหญ่ทางการทหารสหรัฐ ระบุว่าการห้ามคนข้ามเพศจะส่งผลกระทบต่อความพร้อมทางทหาร ขณะที่นายพลลอยด์ ออสติน นายทหารนอกราชการ ที่ ไบเดน เลือกให้มาเป็นรัฐมนตรีกลาโหมก็มีรายงานว่า สนับสนุนแนวคิดในเรื่องนี้
กองทัพสหรัฐมีกำลังพลราว 1 ล้าน 3 แสนนาย และประเมินว่าในปี 2559 มี 2,450 นายที่เป็นคนข้ามเพศ