"สวทช." เดินหน้าทดสอบตามมาตรฐาน อุตสาหกรรม
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช. โชว์ผลงาน NQI ทะลุเป้า เดินหน้าให้บริการวิเคราะห์ทดสอบตามมาตรฐานสากลแก่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ตอบโจทย์ผู้ประกอบการอย่างครบวงจร
จากนโยบายตามยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศ (NQI) ที่เป็นการนำเอาองค์ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ เพื่อสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าว มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในการให้บริการวิเคราะห์ทดสอบตามมาตรฐานสากลแก่ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมในปี 2563 ที่ผ่านมา และยังได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการเพิ่มมูลค่าและสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพน่าเชื่อถือ มีความปลอดภัยต่อการใช้งาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นางเกศวรงค์ หงส์ลดารมภ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. ด้านกิจการพิเศษ เปิดเผยว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2563 สวทช. ได้ให้บริการวิเคราะห์ทดสอบตามมาตรฐานสากลแล้วทั้งสิ้นจำนวน 3,580 รายการ แก่หน่วยงานท้ังภาครัฐและเอกชนจำนวน 444 หน่วยงาน/ราย คิดเป็นร้อยละ 102 ของเป้าหมาย นอกจากนี้ สวทช. ยังให้บริการเชิงเทคนิคและให้คำปรึกษากับหน่วยงานท้ังภาครัฐและเอกชน จำนวน 17 โครงการ ผ่านหน่วยบริการวิเคราะห์และทดสอบของ สวทช. ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในบ้านและเซรามิกอุตสาหกรรม (CTEC) ศูนย์บริการวิเคราะห์ทดสอบ สวทช. (NCTC) ศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม (DECC) และ ศูนย์ทดสอบทางพิษวิทยาและชีววิทยา(TBES)
ปัจจุบัน สวทช. มีทรัพยากรด้าน NQI ขนาดใหญ่ ครอบคลุมหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ มีศักยภาพด้านการปฏิบัติงานทดสอบ สอบเทียบตรวจสอบ และรับรองผลิตภัณฑ์ ทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล อาทิ ISO/IEC17025 ,ISO/IEC17020, ISO/IEC17065 ซึ่งได้รับการยอมรับจากหน่วยงานควบคุมภาครัฐ เช่น สมอ. อย. กสทช. พพ. สนข. หน่วยงานด้านความมั่นคง ฯลฯ ตลอดจน มีประสิทธิภาพในการดําเนินการเชิงธุรกิจ และมีความสามารถในการออกแบบวิศวกรรม การ Simulation และการสร้างเครื่องจักรอุตสาหกรรม รวมถึงความสามารถในการตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะของวัสดุ อาหาร โลหะ ฯลฯ เพื่อรองรับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศอย่างครอบคลุมและทั่วถึง
นโยบายด้าน NQI ของ สวทช. ยังเน้นการให้บริการแบบ One Stop Service ที่พร้อมให้บริการตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง เพื่อส่งมอบบริการและผลงานที่มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว ด้วยเครื่องมือท่ีได้มาตรฐาน ทันสมัย และใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ยกตัวอย่างเช่น บริการทดสอบด้านชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์การบิน บริการทดสอบเครื่องมือแพทย์ บริการทดสอบ Smart Electronic และ Internet of Things (IoT) บริการทดสอบระบบราง บริการทดสอบผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร กระเบื้อง สุขภัณฑ์ เซรามิก อิฐมวลเบา ก๊อกน้ำ/ฝักบัว บริการทดสอบด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเครื่องสำอาง สมุนไพร ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องมือแพทย์ รวมถึง บริการวิเคราะห์ทดสอบเกี่ยวกับนวัตกรรมด้านอาหาร เช่น การวิเคราะห์หากรด อะมิโนที่จำเป็นและกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย และ การวิเคราะห์ทางเคมีเพื่อแยกองค์ประกอบของสารที่สนใจออกจากตัวอย่าง เป็นต้น
นอกจากนี้ สวทช. ยังบริการให้คำปรึกษา การวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา รวมถึงการพัฒนาต้นแบบเครื่องจักร และซอฟต์แวร์ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรม เพื่อสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ อาทิ การพัฒนาต้นแบบโรงเรือนอัจฉริยะให้มีความแข็งแรงและเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย การพัฒนารถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีทฟู้ด ซึ่งปัจจุบันมีผู้สั่งจองแล้วกว่า 80 ราย รวมถึงการพัฒนาระบบบริหารจัดการพลังงานด้วยอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทั้งนี้ ผู้ประกอบที่สนใจจะนำผลิตภัณฑ์มาวิเคราะห์ทดสอบ หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างครบวงจร สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)