5 หมู่บ้านโวยถูกเรียกเก็บค่าน้ำประปาย้อนหลัง 8 เดิอน

25 มกราคม 2564 ที่หอประชุมอำเภอเชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม นายโฆษิต เหล่าสุวรรณ กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม และคณะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ปปท.เขต 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ภายหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเรียกเก็บค่าน้ำประปาย้อนหลัง จากเทศบาลตำบลเชียงยืน เป็นเวลาหลายเดือน บางรายถูกเรียกเก็บย้อนหลังถึง 8 เดือน ทั้ง ๆ ที่ชาวบ้านยืนยันว่าได้จ่ายค่าน้ำประปาให้กับตัวแทนทุกเดือนและมีใบเสร็จรับเงิน ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อน และอยากให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวส่อไปในทางทุจริตหรือไม่

นางสาวจารุจันทร์ สารศาสาตร์บัญชา ชาวบ้านหมู่ 19 เทศบาลตำบลเชียงยืน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาที่บ้านได้จ่ายค่าน้ำประปาเป็นปกติมาทุกเดือน เดือนละไม่เกิน 50 บาท ซึ่งก็ไม่ได้เอะใจอะไร ต่อมาทางเทศบาลตำบลเชียงยืน ได้ออกใบแจ้งหนี้มาให้ โดยแจ้งว่าบ้านของตนค้างค่าน้ำประปาถึง 8 เดือน รวมเป็นเงินกว่า 600 บาท ที่ผ่านมาหลักฐานคือใบเสร็จรับเงินก็เก็บบ้าง ทิ้งบ้าง เพราะด้วยราคาค่าใช้น้ำแค่ไม่กี่สิบบาท ทำให้เก็บใบเสร็จไม่ครบทั้งหมด พอทำเรื่องสอบถามไปยังเทศบาลตำบลเชียงยืน ก็ได้รับคำชี้แจงว่า เป็นการค้างชำระในปี 63 แต่ตนยืนยันว่าได้มีการจ่ายค่าน้ำทุกเดือน และเมื่อมาดูใบเสร็จครั้งล่าสุดก็พบว่า ในใบเสร็จแจ้งว่าเป็นค่าน้ำประปาเดือนสิงหาคม 63 โดยใบเสร็จออกวันที่ 27 ตุลาคม 63 แต่มาเก็บเงินในวันที่ 17 มกราคม 64 จึงตั้งข้อสงสัยว่าทำไมใบเสร็จรับเงินถึงออกย้อนหลังได้นานขนาดนี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบถึงความผิดปกติของเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเชียงยืนด้วย และอยากให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน

นางเรืองรัตน์ดา แสนเพ็งเคน ปลัดเทศบาลตำบลเชียงยืน ชี้แจงว่า ตนเองทราบเรื่องแล้ว เรื่องการเก็บค่าน้ำประปากับประชาชนในเขตเทศบาลตำบลเชียงยืนทั้ง 5 หมู่บ้าน ที่ต้องเก็บเงินย้อนหลัง เพราะเกิดจากความล่าช้าของทางเทศบาล ที่ไม่มีตัวแทนไปเก็บค่าน้ำกับชาวบ้าน ทำให้เกิดความสับสนของผู้ใช้น้ำ ซึ่งทางเทศบาลตำบลเชียงยืน กำลังหาแนวทางแก้ไข ซึ่งจะแก้ไขให้ค่าน้ำเป็นปัจจุบันโดยเร็วที่สุด โดยทางเทศบาลมีภาระค่าใช้จ่ายในการผลิตประปา แต่ละเดือนเป็นเงินกว่าหนึ่งแสนบาท ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าสารเคมีที่ใช้ผลิตประปา โดยเก็บค่าน้ำกับประชาชนหน่วยละ 5 บาท ซึ่งเทศบาลขาดทุนทุกเดือน แต่ยืนยันได้ทำทุกอย่างอย่างดีที่สุด

ด้านนายโฆษิต เหล่าสุวรรณ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจดูเอกสารต่าง ๆ ของชาวบ้านมีการตั้งข้อสงสัยในหลายประเด็น เช่น ใบเสร็จค่าน้ำประปาที่มีการเรียกเก็บ ในบิลล่าสุดพบว่าเป็นการออกใบเสร็จรับเงินในเดือนสิงหาคม 63 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 63 แต่มาเก็บเงินกับชาวบ้านในเดือนมกราคม 64 ซึ่งเบื้องต้นทางเทศบาลตำบลชี้แจงว่าเป็นความล่าช้าของทางเทศบาลที่ไม่มีตัวแทนมาเก็บค่าน้ำประปากับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านก็ยืนยันว่าได้จ่ายค่าน้ำประปาให้กับทางเทศบาลทุกเดือน ซึ่งตรงนี้ก็ต้องไปตรวจสอบในรายละเอียดอีกทีว่าเกิดความปกติตรงจุดใด อีกกรณีคือ เมื่อชาวบ้านค้างค่าน้ำประปาในปี 63 ทางเทศบาลได้มีการปิดงบประมาณอย่างไร ยังมีหนี้คงค้างอยู่หรือไม่ ในการทำบัญชีของเทศบาลทำอย่างไร ซึ่งตรงนี้ก็สามารถตรวจสอบได้เช่นเดียวกัน และอีกประเด็นหนึ่งคือในการออกใบเสร็จรับเงินให้กับประชาชน ควรมีการทำให้เป็นปัจจุบัน ประชาชนจ่ายเงินวันไหน ควรออกใบเสร็จวันนั้น เพื่อที่จะไม่เกิดความสับสนของประชาชน ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ปปท.เขต 4 จะได้มาตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง