ความคืบหน้ากรณีที่นางบวน โล่ห์สุวรรณ อายุ 89 ปี พร้อมด้วยนางลัดดาวรรณ โล่ห์สุวรรณ อายุ 66 ปี ลูกสาว ชาวตำบลเจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ขอความช่วยเหลือ หลังจากเจ้าหน้าที่ อบต. ได้มาแจ้งว่ามีหนังสือจากกรมบัญชีกลางมาทวงเงินเบี้ยผู้สูงอายุ ที่จ่ายให้กับนางบวน ผู้เป็นแม่ย้อนหลังเป็นเวลา 10 ปี คืนเป็นเงิน 84,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยด้วย เพราะเป็นการจ่ายซ้ำซ้อนเนื่องจากนางบวน ได้รับเงินบำนาญพิเศษกรณีที่เป็นทายาทของ จ.ส.อ.จักราวุทธ โล่ห์สุวรรณ ลูกชาย ซึ่งเป็นทหารสังกัด มทบ.21 นครราชสีมา เดือนละ 5,000 บาท หลังจากลูกชายเสียชีวิตจากเหตุการณ์คลังแสงระเบิดที่โคราช เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2544
24 มกราคม 2564 พลตรีภัชรพล ศิริรักษ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 (ผบ.มทบ.26) พร้อมด้วย พ.ต.อ.มานิตย์ สร้อยจิตร ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ นายธนศักดิ์ ปุ่น ประโคน ปลัดอำเภออาวุโสอ.เฉลิมพระเกียรติ นายทินกร วรนุช นายก อบต.เจริญสุข น.ส.ธสา ชินรัมย์ ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม อบต.เจริญสุข และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านสี่เหลี่ยม ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อประชุมหารือแนวทางในการช่วยเหลือนางบวน โล่ห์สุวรรณ จากการพูดคุยได้เสนอให้ผ่อนชำระได้ โดยตามระเบียบที่กำหนดไว้คือ หากผ่อนชำระภายใน 1 ปี จะไม่มีดอกเบี้ย แต่ถ้าเกิน 1 ปี ตามระเบียบก็กำหนดไว้ต้องคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากการสอบถามข้อมูลรายละเอียดทางรัฐได้เพิ่มวงเงินบำนาญกรณีพิเศษที่ลูกชายยายเสียชีวิตจากเดือนละ 5,000 บาท เป็น 10,000 บาทเมื่อ พ.ค.2562 แต่นางบวน ไม่ทราบเพราะไม่ได้เช็คยอดเงิน ส่วนใหญ่ลูกหลานเป็นคนไปเบิก ประกอบกับนางบวนมีเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท จึงแนะนำให้นำเงินจากบำนาญพิเศษผ่อนชำระซึ่งหากผ่อนแบบไม่มีดอกเบี้ยต้องผ่อนเฉลี่ยเดือนละ 7,030 บาท 12 เดือน ทำให้นางบวนขอปรึกษาหารือกับครอบครัว เพราะหากผ่อนเดือนละ 7,030 บาท จะเหลือเงินใช้จ่ายเพียง 3,000 บาทเท่านั้น หลังจากเจ้าหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจนางบวนและลูกสาวเข้าใจระเบียบว่าต้องคืนเงิน แต่ฐานะยากจนและภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว จึงไม่มีเงินก้อนจ่ายคืน ทั้งนี้ ผบ.มทบ.26 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังได้ให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือยายในเบื้องต้นด้วย
นายทินกร วรนุช นายก อบต.เจริญสุข ระบุว่า หลังทราบเรื่องทาง อบต.ก็ไม่นิ่งนอนใจก็พยายามหาทางออกให้กับคุณยาย แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำตามระเบียบเพราะหากไม่ทำก็จะมีความผิดฐานละเว้น เนื่องจากเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินแผ่นดิน แต่ยืนยันว่าจะหาแนวทางช่วยเหลือไม่ให้คุณยายต้องเดือดร้อน หรือได้รับผลกระทบต่อการดำรงชีวิต