เหตุผลของการตั้งพรรคใหม่ หรือเตรียมพรรคสำรอง มีทั้่งการพยายามสร้าง "เซฟโซน" รองรับสถานการณ์การเมืองแตกหัก อย่างเช่น ในพรรคพลังประชารัฐ ที่เริ่มมีร่องรอยความขัดแย้งแตกแยกภายในเด่นชัดขึ้น โดยเฉพาะจากความเห็นที่แตกต่างกรณีการส่งผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ขณะเดียวกัน การตั้งพรรคหรือเปิดพรรคสำรอง ยังอาจไปสอดรับ "ยุทธศาสตร์แตกแบงก์พัน" เพื่อเตรียมการเลือกตั้งครั้งใหม่ หากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังไม่ถูกแก้ โดยเฉพาะในประเด็นกติการการเลือกตั้ง
พรรคที่มีข่าวเตรียมตั้ง และเสนอตั้งแล้ว ก็เช่น
- พรรคที่มี "บิ๊กราชการคนดัง" เป็นหัวหน้าพรรค มีข่าวว่า "แกนนำ 3 ป." แห่งพรรคพลังประชารัฐ เตรียมตั้งสำรองไว้ กรณีพรรคพลังประชารัฐไปไม่ไหว
- พรรคใหม่ของอดีตแกนนำ กปปส. เป็นพรรคสำรอง หากแตกหักกับพรรคที่สังกัดอยู่ในปัจจุบัน
- พรรคไทยภักดี ของกลุ่มหมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ได้รับแรงหนุนและเงินทุนจากกลุ่มหนุนสถาบันหลักของชาติ
- พรรคใหม่ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่พัฒนาจาก "กลุ่มสร้างไทย" ล่าสุดเริ่มทาบทามอดีต ส.ก. หรือ สมาชิกสภา กทม. ของพรรคเพื่อไทย เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งกลางปีนี้แล้ว
- พรรคใหม่ของปีกที่อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เปิดพรรคเล็กไว้รองรับยุทธศาสตร์ "แตกแบงก์พัน" เพื่อไม่ให้พลาดเหมือนเลือกตั้งปี 2562
- พรรคใหม่ของกลุ่ม 4 กุมาร ที่นำโดย นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตหัวหน้าและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวเรือใหญ่อยู่เบื้องหลัง