svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"หมอธีระ" แจงยิบเหตุผลในการเลือก 'วัคซีนโควิด' อย่างเหมาะสม

23 มกราคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"หมอธีระ" แจกแจงผลดีผลเสีย"วัคซีนโควิด"ของแต่ละบริษัท พร้อมชี้ใช้เหตุผลอะไรในการเลือกวัคซีนมาใช้อย่างเหมาะสม ย้ำชัดทุกคนต้องเคร่งครัดดูแลตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ เพื่อไม่ให้มีการระบาดหนัก

23 มกราคม 2564 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat" ระบุถึงข้อดีขอเสียของ "วัคซีน" ป้องกัน โควิด-19 แต่ละบริษัท รวมทั้งฝากถึงทุกฝ่ายไม่ควรทะเลาะกันเรื่องนี้ มีเนื้อหาดังนี้ ...
เรื่องวัคซีนไม่ควรทะเลาะกันไปมา...
มองตามหลักเหตุและผล...
สรรพคุณดีสุดคือ Pfizer/Biontech และ Moderna สองตัวนี้ป้องกันติดเชื้อแบบมีอาการได้ประมาณ 95%
แต่ทั้งสองตัวราคาสูง ตกโดสละ 20-30 เหรียญ ใช้สองโดส ตก 40-60 เหรียญ หากฉีด 40 ล้านคน ต้องใช้งบ 60,000-80,000 ล้านบาท คงไม่ไหว
และมีข้อจำกัดสำคัญเรื่องที่ต้องเก็บในอุณหภูมิต่ำมาก ไทยไม่มีระบบ cold chain พอที่จะดูแลรักษาและขนส่งไปทุกที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"หมอธีระ" แจงยิบเหตุผลในการเลือก 'วัคซีนโควิด' อย่างเหมาะสม


กรรมการเค้าเลือก Astrazeneca/Oxford  เหตุผลเป็นเรื่องสรรพคุณที่ 70% ถือว่าดี เกินเกณฑ์ขั้นต่ำที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ 50% 
และเรื่องราคา 2-3 เหรียญต่อโดส ฉีดคนละสองโดส คิดคร่าวๆ ใช้งบ 6,000-8,000 ล้านบาท น้อยกว่าสองอันแรก 10 เท่า 
รวมถึงการที่เก็บรักษาได้ในตู้เย็นธรรมดา ไม่มีปัญหาในด้านการขนส่งไปใช้ในพื้นที่ต่างๆ และยังสามารถมีโรงงานผลิตในประเทศ ไม่ต้องรอสั่งจากต่างประเทศ
ฟังดูก็มีเหตุผลเข้าใจได้ดี
ทั้งนี้หากในอนาคตมีการนำวัคซีนหลากหลายชนิดเข้ามาจำหน่าย ประชาชนก็สามารถเลือกใช้ที่ต้องการได้ โดยอาจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองหากเป็นชนิดที่ต่างจากที่รัฐจัดให้ฟรี ก็ถือว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไรให้ขุ่นข้องหมองใจกัน
การเลือกยา วัคซีน หรือผลิตภัณฑ์ใดๆ สำหรับทั้งประเทศ ต้องพิจารณาหลายด้าน ทั้งเรื่องสรรพคุณ ข้อจำกัดด้านต่างๆ รวมถึงทรัพยากรที่มี เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นไปได้หรือคุ้มค่า
ทั้งนี้ขอให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และผ่านขั้นตอนพิสูจน์ระดับสากลแล้วเท่านั้น
สำคัญสุดตอนนี้คือ ต้องป้องกันไม่ให้ระบาดหนัก เคร่งครัดป้องกันตัวอย่าให้ติดเชื้อครับ

logoline