อธ.อุทยานฯตรวจสำนักสงฆ์ในเขตรักษาพันธุ์ฯ

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่ตรวจสอบที่พักสงฆ์วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ในกรณีที่มีพื้นที่บางส่วนซ้อนท้บกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยท้บทัน-ห้วยสำราญ จึงได้มีแนวทางแก้ไขโดยเข้าร่วมโครงการพุทธอุทยานในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และได้รับอนุมัติให้เป็นโครงการพุทธอุทยานในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2561 เป็นการดำเนินการเข้าโครงการพุทธอุทยาน ในระยะที่ 2 (ปี พ.ศ. 2559-2563)

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2564 นายธัญญา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับกรณีขอต่อใบอนุญาตที่พักสงฆ์วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ณ สำนักเลขาราชวัง โดยทางสำนักสงฆ์ฯ ขอให้การขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าอนุรักษ์ เป็นไปแบบถาวรไม่ต้องมีการต่อใบอนุญาต หรือให้เป็นการได้รับอนุญาตระยะเวลา 60 ปี ขึ้นไป
และตามที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี ชี้แจงในที่ประชุมถึงหลักฐานการเข้าดำเนินคดีเมื่อปี 2560 พบว่ากำลังมีการดำเนินการสร้างถนนเพื่อเชื่อมต่อไปประเทศเพื่อนบ้าน ระยะกว่า 2.3 กม. พื้นที่กว่า 18 ไร่ และมีการสร้างกำแพง ที่มีการเปิด ขุดลอกพื้นที่ออกกว้างระยะประมาณ 15 ม. ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น ทำให้นายธัญญา ต้องลงตรวจสอบพื้นที่เพื่อความชัดเจนด้วยตนเอง และพบว่า มีการทำถนนจริง แต่ไม่มีบุคคลใดเข้าไปใช้ประโยชน์ ทำให้เส้นทางเริ่มมีสภาพของลูกไม้ขึ้นประปราย มีการก่อสร้างกำแพงจริง

จากการพูดคุยกับพระราชวิสุทธิมุนี (หลวงตาเยื้อน) และชี้แจงโครงการปลูกป่า ในพื้นที่ที่เป็นป่า ว่า เป็นโครงการปลูกป่า ที่เป็นการปลูกฟื้นฟู ปลูกเสริม จำนวน 25 ต้น/ไร่ เพื่อสร้างความหลากหลายของระบบนิเวศ ขณะเดียวกันพบแปลงยางพารา ซึ่งตามกฎหมายพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และเงื่อนไขของโครงการพุทธอุทยาน ไม่สามารถปลูกพืชต่างถิ่น และจะยึดถือครอบครองเป็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ได้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ในขณะนั้นหลวงตาเยื้อนได้ชี้แจงว่า ตนได้ซื้อที่ดินบริเวณนี้มาจากชาวบ้าน และตนไม่ได้เป็นผู้ปลูก เพียงแต่ดูสวนยางพาราต่อมาเท่านั้น