ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ แจงปมดราม่าวัคซีน"โควิด-19"

19 มกราคม 2564 นายแพทย์ นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ชี้แจงถึงข้อกล่าวหาที่ระบุว่ากระบวนการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด19 ของไทยนั้นล่าช้า โดยระบุว่าการจัดหาวัคซีนที่จะนำมาใช้กับคนไทย ต้องผ่านการเก็บข้อมูล อย่างละเอียด เนื่องจากเป็นวัคซีนชนิดที่ต้องใช้ในวาระเร่งด่วน หรือ Emergency use งานวิจัยต่างๆยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ในหลายประเทศยังใช้วิธีใช้งานไปด้วย เก็บข้อมูลไปด้วย จึงอาจทำให้ไม่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตามวัคซีนสำหรับคนไทย จะต้องปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ต้องคัดเลือกมาด้วยความมั่นใจ ไม่รีบร้อนเกินไป นายแพทย์นคร มองว่า กระบวนการเช่นนี้ถือเป็นโอกาสดีของประเทศไทย ที่มีโอกาสได้เห็นทั้งโทษและประโยชน์ของวัคซีนแต่ละแหล่งผลิต ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร และใช้เวลาและผลการเก็บข้อมูลนั้นมาพิจารณา

ในส่วนของแอสตราเซนนิกานั้น ไม่ใช่การจองซื้อทั่วไป แต่มีข้อตกลงในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้ประเทศไทยได้ ซึ่งการถ่ายทอดก็ต้องหาบริษัทที่จะมารับถ่ายทอดเทคโนโลยี โดยต้องมีคุณสมบัติที่พร้อมที่สุด ซึ่งบริษัทแอสตราเซเนกาได้ทบทวนบริษัทต่างๆ ในประเทศไทย ไม่ใช่แค่เจ้าเดียว
โดยพบว่ามีเพียงสยามไบโอไซเอนซ์ที่มีศักยภาพในการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีในรูปแบบของ Viral vector vaccine ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ไม่ใช่จะเลือกบริษัทเอกชนรายใดมาทำก็ได้ แม้กระทั่งองค์การเภสัชกรรมของกระทรวงสาธารณสุขเอง ศักยภาพก็ยังไม่เพียงพอ เพราะเป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ต้องมีความพร้อมในสถานการณ์เร่งด่วน

ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติกล่าวย้ำว่า การจัดหาวัคซีนสำหรับคนไทยนั้นต้องดีที่สุด เกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด ซึ่งสถาบันวัคซีนแห่งชาติก็พยายามรวบรวมข้อมูลจากผู้ผลิตเพื่อให้รู้ผลชัดเจน เพื่อให้ได้วัคซีนที่มีคุณภาพ และได้จำนวนที่เพียงพอ ทั้งนี้อยากให้คนที่วิจารณ์หรือมีข้อมูลไม่ครบ ต้องใช้ความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลให้มากกว่านี้