ปปง. งัดกฎหมายฟอกเงินเอาผิดขนำคอกหอยอ่าวบ้านดอน

19 มกราคม  2564 พลเรือตรีสุรศักดิ์  ประทานวรปัญญา  ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและกฎหมาย ศรชล.(สสก.ศรชล.) นำชุดเฉพาะกิจ กองสอบสวนกลาง  กำลังพลจากกองกฎหมาย กรมประมง  ชุดเฉพาะกิจ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ เจ้าหน้าที่สรรพากร จ.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่อ่าวบ้านดอน ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างและคอกหอยที่เป็นเป้าหมายสำคัญ ใน เขต อ.เมือง และ อ.พุนพิน  เตรียมยึดทรัพย์และเรียกภาษีย้อนหลัง  กับสำรวจเป้าหมายสำคัญ ใน อ.กาญจนดิษฐ์ เพื่อเตรียมดำเนินการในเฟสต่อไป   โดยใช้เวลาสำรวจและตรวจสอบนานกว่า 2 ชั่วโมง ในพื้นที่เป้าหมายที่เป็นสิ่งปลูกสร้างเป็นตัวอาคารหรือบ้านกลางทะเลจำนวน 7 หลัง รวมทั้งขนำหรือบ้านหรูหลังคาสีแดงมูลค่ากว่า 5 ล้านบาทที่เคยเป็นข่าวครึกโครมมาก่อนหน้านี้ ซึ่งในวันนี้พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเหลือเพียงในส่วนของตัวห้องน้ำและเสาบ้านเหลืออยู่ไม่กี่ต้น 
  

จากนั้นได้ลงพื้นที่ใน อ.กาญจนดิษฐ์เพียงบางส่วน ซึ่งยังมีสภาพบ้านพักหรือขนำที่ใช้เฝ้าคอกหอยอยู่จำนวนมากและยังมีเสากลางทะเลปักเป็นแนวเขต  พลเรือตรีสุรศักดิ์  ประทานวรปัญญา  ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและกฎหมาย ศรชล.(สสก.ศรชล.) กล่าวว่า การดำเนินงานที่ผ่านมาได้รายงานไปยังนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศรชล.แห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมาค่อนข้างล่าช้าไปนิดหนึ่งก็เลยบังคับใช้ด้วยกฎหมายเลยเอา ปปง.หรือสรรพากรในพื้นที่ นักกฎหมายกรมประมง เพื่อบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น และจากการลงพื้นที่พบว่าที่ผ่านมามีขนำประมาณ 4-500 ขนำแต่ตอนนี้ลดน้อยลงแล้วโดยเฉพาะในเขต อ.เมือง จากนั้นจะดำเนินการต่อในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์เป็นอันดับต่อไปและพรุ่งนี้ผู้บัญชาการทหารเรือภาค 2 ในฐานะ ผอ.ศรชล.ภาค 2 จะลงพื้นที่จะดำเนินการสอบสวนผู้ที่ประสงค์ที่จะมายื่นแสดงความเป็นเจ้าของจำนวน 6 รายที่อยู่ในอ่าวบ้านดอน  

ด้านนายปิยะ ศรีวิกะ  ผอ.ส่วนปฏิบัติการงานคดี3สำนักงาน ปปง. ให้ข้อมูลว่า การปฏิบัติของ ปปง.ได้ตรวจสอบใน 2 กรณีคือการกระทำความผิดเรื่องการบุกรุกเพื่อการค้า กับทรัพย์สินที่ได้มา โดยอ่าวบ้านดอนเข้าข่ายกระทำความผิดในมูลฐานที่ 15 ของกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งโมเดลแรกจะดำเนินการในพื้นที่ อ.เมืองจากนั้นขยับเป็นในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ต่อไป ซึ่งคาดว่าโมเดลแรกจะใช้เวลาประมาณเดือนหน้าน่าจะนำคดีขึ้นสู่ชั้นศาลได้ โดยทั้ง 7 ราย ที่บุกรุกในขณะนี้อยู่ในฐานะผู้ต้องหา.