ยกย่อง!เชฟหนุ่มกักตัวเองครบ14วันในกระท่อมปลายนา
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
ลำปาง - น่ายกย่อง! เชฟโรงแรมในกรุงเทพฯ กลับบ้านที่อ.เสริมงาม จ.ลำปาง กักตัวเองจนครบ14 วันในกระท่อมปลายนา ชาวบ้านแห่ต้อนรับ พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณ ยกย่องให้เป็นคนดีศรีสังคม
หลังจากเป็นข่าวเผยแพร่ออกไปกรณีนายบรรพต หอมอบ อายุ 44 ปี ชาว อ.เสริมงาม จ.ลำปาง เป็นเชฟในโรงแรมที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงโรคโควิด-19 ประสบวิกฤตด้านเศรษฐกิจจากการยกเลิกห้องพักของกิจการโรงแรมกว่า 100% ทำให้ต้องตัดสินใจกลับมาบ้านเพื่อตั้งหลักชีวิตอยู่กับภรรยาและลูก
แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กระจายตัวไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดมาตรการขอความร่วมมือให้ผู้ที่กลับจากพื้นที่เสี่ยงกักตนเองเป็นระยะเวลา 14 วัน บางคนที่มาจากพื้นที่เสี่ยงแต่ไม่ยอมกักตัว สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมเป็นวงกว้าง ซึ่งนายบรรพต ตัดสินใจกักตัวเองอยู่ในกระท่อมปลายนาจนครบ 14 วัน และคณะกรรมการหมู่บ้านสบทาทำ หมู่ 2 ต.เสริมซ้าย อ.เสริมงาม จ.ลำปาง มอบใบประกาศเป็นคนดี ศรีสังคม
ล่าสุดนายบรรพต หอมอบ ให้สัมภาษณ์ว่า วันแรกที่มาถึงและเห็นสภาพของกระท่อมแล้วรู้สึกกังวลหลายอย่างเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่ที่พัก ซึ่งกระท่อมไม่มีซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆเลย แต่เมื่อเราตั้งใจจะรับผิดชอบต่อสังคม จะต้องผ่านมันไปให้ได้โดยคิดให้กำลังใจตัวเองว่าถือว่าเป็นการเข้าค่ายเหมือนตอนเราเข้าค่ายลูกเสือตอนเด็ก ๆ ก็แล้วกัน
"สิ่งแรกที่ผมกลัวคือผี เพราะว่าผมเป็นคนกลัวผี ที่นี่มืดมากห่างไกลชุมชนและวิเวกเงียบสงัดจนบางครั้งทำให้ผมจิตตกเป็นพัก ๆแต่วันแรกหลับเร็วหน่อยเพราะเดินทางมาไกลและเพลียจึงหลับง่าย พอวันที่สองที่สามนอนไม่หลับเลยครับ ด้วยความเงียบของที่นี่ได้ยินเสียงสัตว์ตัวเล็ก ๆ โดยเฉพาะหมาเห่าหอนพอผ่านได้สักสัปดาห์ก็เริ่มเคยชิน"นายบรรพต กล่าว
นายบรรพต กล่าวอีกว่า ตนคิดเสมอว่าการที่เราตั้งใจจะรับผิดชอบต่อสังคม คือเรื่องที่ดี วันแรก ๆ ที่ตนมาถึงและกลายเป็นข่าว ปรากฏว่าชาวบ้านไม่รู้ใครเป็นใครจำนวนมากเอาอาหารมาห้อยให้กับตนที่รั้วอยู่ตลอดเวลา ตนขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ที่ทุกคนหยิบยื่นให้มา เป็นพลังบวกที่ตนต้องพูดกับตัวเองว่าเรามาถูกทางแล้ว
"ตอนแรกสับสนกับตนเองอยู่บ้างว่าเรามาบ้านแต่ไม่ถึงบ้าน ไม่เจอลูก ไม่เจอเมีย ต้องมาอยู่โดดเดียวลำพังครึ่งเดือน แต่พอทำได้สำเร็จคนในครอบครัวทุกคนยอมรับ ชาวบ้านยอมรับ สังคมยอมรับ และที่ผมแปลกใจและดีใจมากนั่นก็คือ มีการต้อนรับผมอย่างอบอุ่นหลังครบ 14 วันแล้ว ทั้งคณะกรรมการชุมชน นายกเทศบาลตำบลเสริมซ้าย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ประธาน อสม. และอีกหลายต่อหลายฝ่าย ถึงขั้นทำใบประกาศเกียรติคุณ ยกย่องให้ผมเป็นคนดี ศรีสังคมด้วย ผมรู้สึกอบอุ่นใจมาก และบอกกับตัวเองเลยว่าตอนนี้ ผมกลับมาถึงบ้านอย่างแท้จริงแล้ว"นายบรรพต กล่าว
