จับเมียนมาลอบเข้าเมือง พบป่วย 2 ราย

17 มกราคม 2564  ตำรวจสภ.สะเดา จ.สงขลา ร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่5 ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซีย จับกุมชาวเมียนมา 8 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด ขณะถูกนายหน้าคนไทยนำมาพักไว้ในกุโบร์หรือสุสานมุสลิมบริเวณป่าสวนยาง พื้นที่บ้านเคียนเภา หมู่4 ต.ปริก อ.สะเดา เพื่อรอเดินทางกลับไปยังประเทศเมียนมา

         โดยชาวเมียนมาทั้ง 8 คน ลักลอบเดินทางเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ผ่านทางริมรั้วชายแดนไทยมาเลเซีย บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา เมื่อ2วันที่ผ่านมา  หลังจากที่ทางการมาเลเซียประกาศภาวะฉุกเฉินจนถึงวันที่ 1สิงหาคมซึ่งต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากและตัดสินใจลักลอบหนีเข้ามายังฝั่งไทย        

โดยบอกว่าต้องจ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนไทย คนละ 3,300 ริงกิต หรือคิดเป็นเงินไทย ราว27,000บาท เพื่อพาข้ามแดนมาจากประเทศมาเลเซียและส่งต่อไปยังประเทศเมียนมาทางจ.ระนอง       ซึ่งสภาพของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง8 คน เริ่มอ่อนแรงและหิวโซเพราะไม่ได้กินข้าวมาสองวันหลังจากที่ถูกนายหน้าคนไทยนำมาพักไว้ในสุสานเพื่อรอเดินทางต่อ  แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจากสภาพแรงงานทั้ง8 คนน่าจะถูกลอยแพปล่อยทิ้งในป่า       

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจคัดกรองโควิดพบว่ามี2 คนที่มีไข้ไอเจ็บคอถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสะเดาเพื่อรอดูอาการ ส่วนที่เหลือถูกควบคุมไว้ที่สภ.สะเดาและจะเร่งขยายผลไปยังนายหน้าที่พาแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้เข้ามา
 

 อย่างไรก็ตามสถานการณ์โควิดในจ.สงขลา ในวันนี้ทางศบค.ได้แถลงพบผู้ป่วยโควิดอีก3คนในกลุ่มแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซียผ่านด่านพรมแดนสะเดาเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา จากเดิม2คนซึ่งเป็นคนในพื้นที่อ.หาดใหญ่