ซิกเนเจอร์"ก๋วยเตี๋ยวผักหวานป่า"แห่งเดียวของภาคเหนือ
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
อุตรดิตถ์ - ชื่นชมครอบครัวครู ผอ.โรงเรียนน้ำริดวิทยา จ.อุตรดิตถ์ ใช้เวลาช่วงวันหยุดราชการ เสาร์ อาทิตย์ และวันขัตฤกษ์ ผันตัวเองเป็นพ่อค้าเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว เป็นอาชีพเสริม ชูเมนูซิกเนเจอร์ "ก๋วยเตี๋ยวผักหวานป่า" แห่งเดียวของภาคเหนือ ปลูกเอง-ปลอดสารพิษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 16 มกราคม ของทุกปี กำหนดให้เป็นวันครูแห่งชาติ และเป็นวันหยุดราชการ สำหรับครอบครัวนายวิเชียร ปั้นฟอง ผู้อำนวยการโรงเรียนน้ำริดวิทยา โรงเรียนมัธยมศึกษาของจังหวัดอุตรดิตถ์ นับเป็นต้นแบบของพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติอีกท่านหนึ่ง ซึ่งทุกคนในครอบครัวรับราชการ โดยเฉพาะลูกชายที่ขอเดินตามรอยพ่อ ปัจจุบันเป็นคุณครูด้วยเช่นกัน เมื่อถึงวันหยุดราชการ เสาร์และอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 3 บ้านเหล่าป่าสา ต.ขุนฝาง อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ที่ถูกปรับเป็น ร้าน Noodle Farm ก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขาผักหวานป่า คึกคัก
เนื่องจากลูกค้าทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ มาทั้งกลุ่มเพื่อน คู่รักและครอบครัว ต่างตั้งหน้าตั้งตารอ ให้ถึงเวลาที่ ร้าน Noodle Farm ก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขาผักหวานป่า เปิดบริการ เพราะที่ร้านแห่งนี้ เป็นเพียงร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งเดียวของภาคเหนือ ที่มีเมนูเด็ด และถือเป็นซิกเนเจอร์สุดๆ คือ ก๋วยเตี๋ยวผักหวานป่า และมีให้สั่งรับประทานตลอดทั้งปี เพียงชามละ 40 บาท มีทั้งหมู เนื้อ ให้เลือกรับประทาน ที่สำคัญเปิดเฉพาะวันหยุดราชการเท่านั้น
นายวิเชียร ปั้นฟอง เจ้าของร้านและเจ้าของไอเดีย ก๋วยเตี๋ยวผักหวานป่าซึ่ง่ใช้เวลาช่วงวันหยุดราชการ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผันตัวเองเป็นพ่อค้าเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว เป็นอาชีพเสริม หรือเป็นอาชีพรองของครอบครัว ไม่ได้เบียดเบียนเวลาราชการ โดยเลือกเรียนรู้ในเมนูที่ทุกคนในครอบครัวชื่นชอบและคนทั่วไปกว่าร้อยละ 90 ต้องเลือกรับประทาน คือ ก๋วยเตี๋ยว และเลือกใช้วัตถุดิบ ประเภทผักที่ปลูกเอง ปลอดสารพิษ มาเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัว และเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันได้ สร้างความรัก ความอบอุ่นให้ครอบครัวอีกทาง
ทั้งนี้ครอบครัวมีอาชีพหลักคือรับราชการทั้ง พ่อแม่ลูก และมีอาชีพรองซึ่งยึดหลักพอเพียงตามพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 คือ ทำเกษตรกรผสมผสาน พื้นที่ 34 ไร่ จึงปลูกไม้ผล สลับกับพืชผักต่างๆ และลงปลูกผักหวานป่า เพื่อลดการเผา มานานกว่า 10 ปี จนปัจจุบันสามารถเก็บยอดผักหวานขายได้ตลอดทั้งปี ปกติเก็บยอดสดๆขายส่งกิโลกรัมละ 200-300 บาท
ในช่วงวันหยุด จึงอยากเพิ่มกิจกรรมและสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว จึงเกิดไอเดียปรับพื้นที่บ้าน บริเวณบ่อเลี้ยงปลากลายเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขา ซึ่งมีเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือทั้งหมูและเนื้อ และผักนานาชนิด ซึ่งปลอดสารเพราะปลูกเอง เช่น ผักกาด ผักบุ้ง ถั่วงอก และเพิ่มมูลค่า สร้างจุดเด่นของเมนูด้วยการนำ ผักหวานป่าที่ปลูก มาใช้แทนผักต่างๆ กลายเป็น ซิกเนเจอร์ของร้านและน่าจะเป็นแห่งเดียวของภาคเหนือคือ "ก๋วยเตี๋ยวเรือผักหวานป่า" เพียงชามละ 40 บาท ซึ่งขายดี ลูกค้าต้องสั่งรับประทาน
ร้านจะเปิดเฉพาะวันหยุดราชการ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น เปิดตั้งแต่ 10.00 น.และไม่ถึง 15.00 น.ก็หมด เพราะมีลูกค้าเข้ามาต่อเนื่อง ได้จัดบริเวณสวนของบ้านให้มีมุมกิจกรรมสำหรับลูกค้า เช่นให้อาหารปลา แกะและแพะ จุดเช็คอินถ่ายภาพ สะพานไม้ไผ่ ทั้งนี้ทุกคนในครอบครัวและไปถึงญาติพี่น้อง จะแบ่งหน้าที่และช่วยกัน กำไรก็เป็นรายได้ให้ทุกคน เป็นการใช้เวลาวันหยุดราชการสร้างรายได้เสริม ที่สำคัญอยากให้ลูกค้าโดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบก๋วยเตี๋ยวได้รับประทานของดีๆ
"เคล็ดลับของก๋วยเตี๋ยวเรือผักหวาน คือ จะลวกเส้นก่อน และแยกลวกผักหวานไม่นาน ยกขึ้นจากน้ำร้อน ผักหวานจะเขียว สด และ หอม กลมกล่อมไปด้วยหมู และเนื้อ ตุ๋นจากไม้ฟืน โดยเฉพาะเนื้อ และลิ้นวัวตุ๋น นอกจากนี้ที่ร้านยังมีเมนูอื่นๆ เช่นหมูสะเต๊ะ ไอศกรีมกะทิสด ขนมหวาน อย่างไรก็ตาม ร้านก๋วยเตี๋ยวแม้ในปัจจุบันจะเป็นอาชีพรองของครอบครัว แต่จะเป็นอาชีพหลักที่รองรับผมและภรรยาหลังเกษียณราชการ"นายวิเชียร กล่าว