เปิดภาพวงจรปิด คดีสิบเวรข่มขืนผู้ต้องขังเมียนมา

15 มกราคม  2564 พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เดินทางลงพื้นที่ สภ.บ่อผุด เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่เจ้าหน้าที่สิบเวรก่อเหตุล่วงเมิดทางเพศผู้ต้องขังชาวเมียนมาที่ถูกกุมขังอยู่ในห้องคาบคุม โดยมี พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้าของคดี ซึ่งความคืบหน้าของคดี ทราบว่าในคืนเกิดเหตุช่วงเวลา 02.30 น.คืนวันที่ 13 ม.ค.2564 ด.ต.วัชรินทร์ สินสโมสร สิบเวร สภ.บ่อผุด ได้ก่อเหตุนำ น.ส.โมเน่นิว อายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกจากเรือนจำอำเภอเกาะสมุย มาควบคุมที่ สภ.บ่อผุด เพื่อเตรียมการรอผลักดันกลับประเทศ ได้ถูก ด.ต.วัชรินทร์ นำตัวออกจากห้องควบคุม พาไปยังห้องปฏิบัติการจราจร ที่อยู่ในตัวอาคาร สภ.บ่อผุด จากนั้นได้บังคับข่มขืนกระทำชำเรา ผู้เสียหายไป 1 ครั้ง หลังเสร็จกิจ ด.ต.วัชรินทร์ ได้พาผู้เสียหายไปควบคุมต่อ จนเช้าวันที่ 13 ม.ค.2564 ผู้เสียหายจึงได้แจ้งให้ญาติทราบเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

หลังเกิดเหตุทาง พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด ได้สอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมนำผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.เกาะสมุย ผลเบื้องต้นพบว่ามีร่องรอยการถูกกระทำชำเราจริง จึงรับคำร้องทุกข์ตามคดีอาญา จากนั้นได้ติดตามตัว ด.ต.วัชรินทร์ สินสโมสร มาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยแจ้งข้อกล่าวหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ที่ต้องกุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำด้วยประการใดให้ผู้ที่อยู่ระหว่างกุมขังนั้นหลุดพ้นจากการกุมขังไป
ซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเกาะสมุยพร้อมคัดค้านการประกันตัว พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ ด.ต.วัขรินทร์ สินสโมสร ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งล่าสุดผู้ต้องได้รับการประกันตัวจากศาลจังหวัดเกาะสมุย ออกมาแล้วเมื่อช่วงเย็นวานนี้              

พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ เปิดเผยว่าคดีนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญ เนื่องจากเรื่องที่เกิดส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่ง โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งแน่ให้ดูแลเรื่องคดี พร้อมให้คามเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และกำชับให้มีมาตรการควบคุมให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้นในการตรวจเข้มห้องผู้ต้องขัง ทั้งแม้ว่าทางผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา 

แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญในส่วนของพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ รวมถึงพยานบุคคล ที่ทางเจ้าหน้าได้สอบปากคำไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งวันนี้ทางศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้ลงมาตรวจหาพยานหลักฐานบริเวณโซฟา ในห้องปฎิบัติการจราจรจุดที่มีการกระทำชำเรา มาประกอบสำนวนคดี                ขณะเดียวกันยังสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ สภ.บ่อผุด ดูแลผู้เสียหายที่ยังคงถูกกุมขังอยู่ในห้องควบคุม สภ.บ่อ ให้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าผู้ต้องขังจะเป็นชาวต่างประเทศ ที่รอผลักดัน ก็ต้องดูแลให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้มีการรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับทางสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทยทราบเรื่องแล้ว โดยทางสถานทูตรับทราบเรื่องและไม่ได้มีการสอบถามคืบหน้าแต่อย่างใด
              

ขณะที่เหตุการณ์ดังกล่าว ที่เกิดขึ้นในคืนเกิดเหตุ กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายใน สภ.บ่อผุด ได้บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด ตั้งแต่ตอนที่ ด.ต.วัชรินทร์ นำตัวผู้เสียหาออกจากห้องขัง ไปยังห้องปฏิบัติการจราจร และหลังลงมือกระทำชำเราแล้วก็ได้นำกลับมาควบคุมยังห้องควบคุมอีกครั้ง โดยภาพวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด