svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

"แม่นกน้อย" เปิดใจหลังไลฟ์สดขายบ้าน

15 มกราคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แม่นกน้อย อุไรพร เปิดใจหลังไลฟ์สดขายบ้านตองห้า ต่อลมหายใจ "พ่อหลอด" คู่ชีวิตที่กำลังป่วยหนัก และต่อชีวิตลูกวงที่กำลังประสบปัญหาจากพิษโควิดงานถูกเลิกทั้งหมด ยืนยันแม้ต้องขายบ้านแต่ไม่ยุบวงเป็นอันขาด

หลังจากที่ นางอุไร ฉิมหลวง หรือ แม่นกน้อย อุไรพร อายุ 64 ปี หัวหน้าหมอลำคณะเสียงอิสาน ได้ไลฟ์สดเปิดใจทางเพจ "เสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร" ที่บ้านเลขที่ 555 หมู่ 17 บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังเจอมรสุมอีกระลอกใหญ่จากพิษโควิด-19 พร้อมเผยอาการพ่อหลอด หรือ นายมัยกิจ ฉิมหลวง สามีคู่ชีวิต อดีตนักจัดรายการชื่อดัง ป่วยหนักเข้ารักษาตัวห้องไอซียู พร้อมประกาศขายบ้านตองห้า เพื่อรักษาอาการป่วย และต่อลมหายใจวงเสียงอิสานให้เป็นตำนานสืบไป











ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 มกราคม 2564 ได้เดินทางไปบ้านตองห้า เลขที่ 555 หมู่ 17 บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมือง ที่มีเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เพื่อขอสัมภาษณ์ แม่นกน้อย อุไรพร หัวหน้าหมอลำคณะเสียงอิสาน โดยบรรยากาศที่บ้านตองห้า เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ขณะที่ลานเพลิน บ้านพักเสียงอิสาน ที่อยู่ด้านข้างบ้านตองห้า และเป็นฝั่งบ้านที่พักของหางเครื่อง นักดนตรี และคอนวอยของวง ที่มีเนื้อที่ประมาณ 40 กว่าไร่ มีหางเครื่องหลายคน ได้เปิดประตู ตั้งแผงขายอาหารริมถนนอุดรธานี-บ้านหนองใส ขายลาบเป็ดและหอมแดง เพื่อหารายได้เสริม ช่วงที่วงเสียงอิสาน ต้องพักงาน จากสถานการณ์โควิด-19




"แม่นกน้อย" เปิดใจหลังไลฟ์สดขายบ้าน











หลังจากนั้น แม่นกน้อย ได้เปิดบ้านตองห้า ให้ผู้สื่อข่าว ได้สัมภาษณ์เปิดใจ หลังจากที่ แม่นกน้อย ได้เปิดไลฟ์สด เมื่อคืนนี้ว่า บ้านที่จะขายคือบ้านตองห้าหลังนี้ ที่มีอาณาเขตแยกออกมา พื้นที่ประมาณ 4 ไร่เศษ ซึ่งบ้านหลังนี้เรียกว่าคฤหาสน์ของเรา สร้างเสร็จเมื่อปี 2550 เป็นบ้านไม้สักทั้งหลัง รวมราคากว่า 100 ล้านบาท ในใจคิดว่าอยากจะขายราคา 70 ล้านบาท โดยหากขายได้เงินที่ได้มาก็จะเอาไว้รักษาดูแลคุณพ่อหลอด ที่เราสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงมาด้วยกัน ตั้งแต่ปี 2519 หรือ 46 ปี เท่ากับอายุวงเสียงอิสาน ที่เคียงข้างกับลูก ๆ ชาวเสียงอิสาน รวมทั้งจะไปใช้หนี้ทั้งในและนอกระบบ และผู้มาร่วมลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท ส่วนเงินที่เหลือก็จะใช้ขับเคลื่อนวงเสียงอิสาน ดูแลลูก ๆ ในวง ประมาณ 300 ชีวิต ให้เดินหน้าต่อ เพื่อสืบสานวัฒนธรรมหมอลำอิสานต่อ

"แม่นกน้อย" เปิดใจหลังไลฟ์สดขายบ้าน

"ผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งครั้งแรกและครั้งที่ 2 กระทบกับเราเป็นลูกโซ่ยาวมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งโควิดรอบแรก เราได้ปรับโครงสร้างหนี้พักชำระหนี้ให้เรา หลังจากนั้นเราก็ขยับมีการซ้อมวงเตรียมเปิดการแสดงดนตรีหมอลำตั้งแต่เดือนตุลาคม และพฤศจิกายน พอมาถึงเดือนธันวาคม ปรากฎว่าโควิด กลับมาอีกครั้ง งานของเสียงอิสานที่มีการจองให้ไปแสดง 100 กว่าคิว มีทั้งสปอนเซอร์ ผู้สนับสนุน หุ้นส่วน พอเกิดโควิดรอบ 2 งานทั้งหมดก็ยกเลิก ซึ่งหากคิดเป็นค่าเสียหายที่เรากระทบ เฉพาะในช่วงโควิดรอบ 2 ที่ก่อนหน้าเราลงทุนเพิ่มไปแล้ว เราเสียหายไป 100 กว่าล้านบาท ไม่รวมโควิดรอบแรก"

"แม่นกน้อย" เปิดใจหลังไลฟ์สดขายบ้าน

แม่นกน้อย เล่าถึงอาการของพ่อหลอด สามี ที่ป่วยในขณะนี้ว่า 4-5 ปี ที่ผ่านมา คุณพ่อแกเป็นมะเร็ง ทั้งม้ามที่ตัดทิ้งไปแล้ว และมีที่ตับที่อ่อนล้า ปอด มีโรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน รุมเร้ารวมกันมา ที่ท่านล้มขนาดนี้ เพราะท่านเสียขวัญจากโควิดรองที่ 2 เหมือนว่าเสียกำลังใจ เหมือนว่าเราเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงแล้ว เรากำลังว่าจะฟื้นได้ แต่มาถึงตอนนี้เรารู้ชะตากรรม ซึ่งก็เป็นเหมือนกันทั้งโลก แล้วว่าปีนี้เราตกงานแน่นอน ทั้งที่ผ่านมาเราคิดว่าเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ เราได้ขยับแน่ แต่มาถึงตอนนี้แล้ว เรารู้แล้วว่า ไม่ได้ไปแน่นอน เพราะว่าเจ้าภาพไม่กล้าจัดงาน และคนก็ไม่กล้าออกนอกบ้าน เพราะกลัวโควิด






"แม่นกน้อย" เปิดใจหลังไลฟ์สดขายบ้าน










ผู้สื่อข่าวถามว่า หากขายบ้านไปแล้วจะไปอยู่ที่ไหน แม่นกน้อย ตอบว่า ที่จะขายคือบ้านตองห้าหลังนี้ แต่เรายังมีที่ดินที่อยู่รอบบ้านตองห้าอีกประมาณ 40 กว่าไร่ แต่ถ้าคนจจะซื้อต้องการซื้อทั้งหมด 50 ไร่ เราก็คงต้องไปหาที่อยู่ใหม่ ไปสร้างอาณาจักรใหม่ของเรา ตอนนี่มีคนติดต่อมาเยอะมาก รวมทั้งมีนายหน้าติดต่อมาด้วย แค่ยังคุยกันเรื่องราคาไม่จบ แต่เราก็รู้ว่ามีแต่คนอยากช่วยเรา ซึ่งต้องขอขอบคุณมาก ๆ รวมทั้งมีผู้ให้แรงใจกับเราเยอะมาก จนวานนี้เราคิดว่าคุณพ่อจะไม่รอด พอได้กำลังใจจากแฟนคลับเข้ามาจากทั่วสารทิศ ทั่วโลก แรงใจเหล่านี้เป็นพลังใจ ทำให้คุณพ่ออาการดีขึ้น รวมทั้งคนในวงการ อาชีพหมอลำ เข้ามาให้กำลังใจ






"แม่นกน้อย" เปิดใจหลังไลฟ์สดขายบ้าน














"เราเป็นประธานชมรมภาคีเครือข่ายหมอลำเรื่องต่อกลอนภาคอีสาน ทุกคนทุกคณะพร้อมจะมาช่วยเหลือ โดยวันที่ 19-20 มกราคม นี้ เวลา 2ทุ่มถึงตีหนึ่ง เราจะจัดแสดงคอนเสิร์ตหมดลำแทบทุกคณะ ที่จะไลฟ์สดคอนเสิร์ตแบบมินิคอนเสิร์ตที่บ้านตองห้า และมี ฝน ธนสุนทร ระเบียบวาทศิลป์ ประถมบันเทิงศิลป์ ศิลปินภูไท สาวน้อยเพชรบ้านแพง สมจิต บ่อทอง ซึ่งเราจะขอให้แฟนเพลงของเราที่ได้รับความสุข และเมตตาร่วมบริจาคโอนเงินช่วย แล้วแต่พลังของแต่ละคน 5 บาท 10 บาท แล้วแต่ใครจะสนับสนุน"






"แม่นกน้อย" เปิดใจหลังไลฟ์สดขายบ้าน









แม่นกน้อย บอกอีกว่า ยืนยันว่า ไม่มีการยุมวงสียงอิสาน ลูก ๆ ทั้ง 300 ชีวิต เราก็จะดูแล ซึ่งเดิมบ้านตองห้า จะอยู่คู่วงเสียงอีสาน แต่ถึงวันนี้เรายอมขายบ้านตองห้า เพื่อให้เสียงอิสานขับเคลื่อนไปได้ ส่วนที่เหลือ เราจะทำศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์เรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยว เป็นบ้านพัก เป็นโฮมสเตย์ เป็นตลาด หรือเป็นคอมเพล็กซ์วัฒนธรรมอิสาน ให้ลูกหลานได้ทำมาหากิน ที่มีครบวงจรเหมือนเป็นอีกหมู่บ้านหนึ่ง จัดโดมหรือฮอลล์ไว้แสดงคอนเสิร์ต เพื่อไม่ต้องออกไปไหน ยังไงเราก็ไม่ยุบวงเสียงอิสานอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่มีคนมาซื้อบ้านตองห้า เราก็คงจะไปไม่เป็น แต่เราก็จะต้องช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุดก่อน







"แม่นกน้อย" เปิดใจหลังไลฟ์สดขายบ้าน










ด้าน นางรัตนาพร วรงค์ อายุ 58 ปี หลานสาวของ แม่นกน้อย ที่มาขายของที่รั้วบ้านแม่นกน้อย เปิดเผยว่า ตนมาอยู่กับแม่นกน้อยตั้งแต่ปี 2537 ตนเป็นหลานของแม่นกน้อยทำหน้าที่ดูแลสวนภายในบ้าน ทำกับข้าว ทำความสะอาดบ้าน มีความผูกพันมากทำให้ไปไหนไม่ได้ และมารู้ว่าแม่นกน้อยไลฟ์สดขายบ้าน ตนก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็ยังจะอยู่กับแม่นกน้อยเหมือนเดิม ถ้าลำบากก็ลำบากไปด้วย เพราะว่าอยู่ด้วยกันมานานมากแล้ว ส่วนชาวคณะเสียงอิสานก็ให้กำลังใจ และอยู่กับแม่นกน้อยเหมือนเดิมต่างพากันขายของหน้าบ้านแม่นกน้อย ซึ่งตอนนี้ชาวคณะบางส่วนก็พากันกลับบ้าน แต่ถ้าแม่นกน้อยนัดก็จะพากันกลับมา ตนก็อยากจะให้กำลังใจแม่นกน้อยว่าความผูกพันของลูกของหลานก็ยังรักแม่นกน้อยเหมือนเดิม และยิ่งสภาวะแบบนี้ก็ยิ่งรักมากขึ้นกว่าเดิม








logoline