svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สุพัฒนพงษ์"ย้ำรอฟังผลเยียวยาโควิดยันรัฐไม่นิ่งนอนใจ

14 มกราคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์" เผยรัฐจัดสรรงบอนุรักษ์พลังงาน 2,400 ล้าน ครอบคลุมถึงชาวดอยไฟฟ้าเข้าไม่ถึง รับปากวันนี้ชัด เยียวยาโควิด-19 รายละ 3,500 บาท วอนฝ่ายค้านเข้าใจสถานการณ์ เหตุจ่ายล่าช้าเพราะไม่เหมือนรอบแรก

14 มกราคม 2564 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวภายหลังการประชุมชี้แจงข้อราชการผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับผู้ว่าราชการทั้ง 76 จังหวัด เพื่อจัดสรรงบกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ให้กับทุกจังหวัดทั่วประเทศเป็นปีแรก ในวงเงินรวม 2,400 ล้านบาท จังหวัดละ 25 ล้านบาท ว่า งบส่วนนี้จัดสรรให้เป็นงบบูรณาการของแต่ละจังหวัด ไปพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์พลังงาน โดยเฉพาะพลังงานทดแทน ที่ต้องการกระจายไปยังทั่วประเทศสำหรับช่วยเหลือ ลดรายจ่ายของประชาชน และส่งเสริมให้เกิดการสร้างรายได้ ในท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ยืนยันว่างบประมาณส่วนนี้ กระจายไปถึงพื้นที่ขาดแคลนพลังงานไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง เช่น บนดอย ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ด้วย ทั้งการสร้างสถานีพลังงานชุมชน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ รวมถึงโครงการสูบน้ำบาดาลจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะมีการจัดสรรงบประมาณในปีต่อๆไปอย่างต่อเนื่องด้วย เพื่อความมั่นใจให้กับท้องถิ่นในการร่วมกันอนุรักษ์พลังงาน

ส่วนความชัดเจนของรัฐบาลในการจ่ายเงินเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รายละ 3,500 บาท หลังมีกระแสข่าวว่าจะมีการเยียวยาเฉพาะ 28 จังหวัดเสี่ยงนั้นยืนยันว่าความชัดเจนเรื่องนี้ ฝ่ายเศรษฐกิจจะประชุมกันวันนี้ (14ม.ค.) ถึงรายละเอียดการเยียวยา ว่าเป้าหมายจะเป็นคนกลุ่มใด จะเยียวยาในวงเงินเท่าไหร่ จังหวัดใดบ้าง รวมถึงระยะเวลา และวิธีการในการเยียวยา เพราะรายละเอียดกำลังเป็นเพียงกรอบทิศทางที่นายกรัฐมนตรี วางไว้เท่านั้น แต่ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจวางแผนไว้แล้ว

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาวิจารณ์การเยียวยาในครั้งนี้ว่าใช้งบประมาณน้อยกว่ารอบที่แล้วและดำเนินการเยียวยาเพียง 2 เดือนนั้นเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 รอบนี้มีความแตกต่างจากรอบแรก ยังไม่ถึงขั้นต้องล็อกดาวน์ภายในประเทศ เหมือนรอบแรก เพราะครั้งนี้เราได้เรียนรู้ โดยมีการควบคุมได้ดี ในรูปแบบเบาไปหาหนัก และการลดระดับจากหนักไปหาเบา รวมถึงการเรียนรู้และปรับตัวของภาคประชาชน ทำให้รัฐบาลเลือกที่จะไม่ล็อกดาวน์ประเทศอีก ทำให้ธุรกิจทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ ดำเนินชีวิตได้แทบปกติ มีเพียงเฉพาะปัญหาของร้านอาหาร ที่มีการกำหนดระยะเวลาให้ปิดในเวลา 21.00 น. ทำให้การพิจารณาเยียวยาครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งก่อน

logoline