แพทย์แนะเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมือสองช่วงโควิด-19 ระบาด

จากสภาพอากาศในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุณหภูมิหนาวเย็นลง  ทำให้มีประชาชนนิยมซื้อเสื้อกันหนาวมือสองมาใช้กันเป็นจำนวนมาก     โดยเสื้อกันหนาวที่ประชาชนนิยมเลือกซื้อ มีทั้ง เสื้อผ้าถักไหมพรม เสื้อผ้าสำลี เสื้อผ้าขนสัตว์หรือหนังสัตว์ เสื้อสูท เสื้อผ้าลูกฟูก เสื้อกันหนาวแบบหนา เสื้อกันหนาวขนเป็ด เสื้อโค้ท เป็นต้น 14 มกราคม  2564 นพ.พรฤทธิ์  พิสุทธิมาน   ประธานคณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ และอายุรแพทย์โรคติดเชื้อ  โรงพยาบาลขอนแก่น  กล่าวว่า   สำหรับการเลือกซื้อเสื้อผ้ามือสองเพื่อใช้เป็นเครื่องกันหนาวในระยะนี้นั้น  ประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเลือกซื้อ ไม่เพียงแต่การระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19  เท่านั้น  แต่ยังต้องระวังเชื้อแบคทีเรียและเชื้อปาราสิตต่างๆ  โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคผิวหนังจากพาหะนำโรคที่อาศัยอยู่ในเส้นใยผ้าที่สกปรก  อย่าง เห็บ หมัด และโลน  หากซื้อหาไปแล้วไม่ทำความสะอาดก่อนใช้  อาจจะทำให้มีอาการแพ้ เป็นผื่นคัน เมื่อเกาก็อาจจะกลายเป็นแผลติดเชื้อได้   นอกจากนี้แม้ว่าโควิด 19 จะแพร่กระจายทางละอองฝอยเป็นหลัก แต่การทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสหรือของใช้ส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า ก็อาจช่วยลดการปนเปื้อนเชื้อก่อโรคได้
  

"การเลือกซื้อนั้นต้องเลือกจากแหล่งที่มาที่ไว้ใจได้ มีคุณภาพ และสะอาด สำหรับในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 การทำความสะอาดเสื้อผ้ามือสองต้องเน้นในเรื่องน้ำที่ใช้ในการซักล้างนั้นต้องมีอุณหภูมิสูงที่ 60-90 องศาเซลเซียส ใช้น้ำยา ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาด ผสมในสัดส่วนที่เหมาะสม หรือการใช้น้ำยาซักผ้าขาว หรือโซเดียมไฮโปคลอไลน์ ผสมให้ได้สัดส่วนที่ร้อยละ 0.5 จะสามารถฆ่าเชื้อที่ก่อโรคโควิด 19 ได้"นพ.พรฤทธิ์ กล่าวนอกจากนี้ในระหว่างการเลือกซื้อสินค้านั้นก็ มีความสำคัญที่ประชาชนต้องปฏิบัติตัวขณะซื้ออย่างเคร่งครัด คือ การเว้นระยะห่าง การสวมใส่หน้ากาก งดรวมกลุ่ม การหลีกเลี่ยงไปในที่ที่ชุมนุม"สำหรับโอกาสที่เสื้อผ้ามือสองจะติดเชื้อโควิดนั้น พบว่ามีการศึกษาเรื่องการติดเชื้อยังมีอยู่น้อย มีข้อมูลไม่มากนัก แต่โดยทั่วไปเชื่อว่าเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่อาจจะอยู่ในเสื้อผ้ามีพื้นผิวอ่อนนุ่ม ทำให้เชื้อไวรัสโควิด 19 อาศัยอยู่ได้เพียงชั่วงระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ถึง 2 วัน ต่างจากวัสดุที่มีพื้นผิวแข็ง อย่างเหล็ก หรือพลาสติก ที่เชื้ออยู่ได้นานกว่า แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ต้องรู้แหล่งที่มาของสินค้า ซึ่งประชาชนต้องระมัดระวัง ปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยการทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี"นพ.พรฤทธิ์ กล่าว