สำหรับ ยาอี จะมีสอง 2 รูปแบบ ก็คือ แบบเม็ด หรือที่นิยมเรียกว่า "Kitty" วัยรุ่นไทยจะเรียกว่า "หนม" ขณะที่ แบบผง เรียกว่า "Molly" โดยแบบเม็ดจะนิยมมากในกลุ่มวัยรุ่นไทยเพราะพกพาได้สะดวก และตัวยาออกฤทธิ์ยาวนาน 3-6 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการปาร์ตี้ในยามค่ำคืน
ถัดมาคือ ยาเค หรือ เคตามีน ช่วงหลังได้รับความนิยมในกลุ่มนักเสพอย่างมากและยังเป็นยายอดฮิตในการมอมหญิงสาว มีทั้งแบบผงและแบบน้ำ โดยยาออกฤทธิ์เร็วแต่อยู่ได้ไม่นานไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็หมดฤทธิ์แต่กว่าจะฟื้นอาการต้องรอนานถึง 24 ชั่วโมง และยังทำให้สูญเสียความทรงจำระยะสั้นไปจึงเป็นที่นิยมของคนร้ายที่ใช้มอมเมาหญิงสาว
ต่อมาเป็น ยาเสียสาว หรือ Gamma-Hydroxybutyric(GHB) ยาชนิดนี้ออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาททำให้รู้สึกตื่นตัว รู้สึกสนุก รวมถึงการที่อยากมีเพศสัมพันธ์ มีการแพร่ระบาดตามสถานบันเทิงต่างๆโดยมีทั้งชนิดเม็ด ชนิดผง หรือชนิดเหลว ซึ่งนิยมใช้แบบชนิดเหลวใส
ชนิดที่ 5 คือ กัญชา หรือที่วัยรุ่นเรียก "เนื้อ" หรือ "ปุ๊น" เป็นยาเสพติดสุดคลาสสิค ซึ่งเราก็ทราบกันดีว่ายาเสพติดชนิดนี้ มีรูปร่างหน้าตา และออกฤทธิ์อย่างไรบ้าง
"ทีมข่าวข้นคนข่าว"ได้ไปพูดคุยกับอดีตผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในจังหวัดภาคตะวันออกรายหนึ่ง ระบุว่า เมื่อก่อนไอซ์มีราคาอยู่ที่หลักพันบาทต่อ1 จี แต่ปัจจุบัน ไอซ์กลับมีราคาถูกลงเกินกว่าครึ่งหนึ่งของราคาเดิมจนทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มระดับตลาดกลางไปจนถึงตลาดล่าง นิยมซื้อหามาเสพกัน
ปัจจุบัน ไอซ์ขายอยู่ที่ 300 - 500บาท (ราคาที่รับมาขายต่อ) หากยิ่งรับไอซ์มาปริมาณมากๆก็จะทำให้ราคาซื้อขายถูกลงอีกจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไอซ์จะแพร่ระบาดไปยังกลุ่มวัยรุ่นที่มีช่วงวัยที่น้อยลง ส่วนราคาของยาบ้าตอนนี้ก็อยู่ที่ 30 40 บาท เรียกว่า ถูกว่าข้าวกล่องเสียอีก
อดีตเอเย่นต์รายนี้ ยังบอกอีกว่าในพื้นที่บ้านเขาเต็มไปด้วยยาเสพติดที่ระบาดอย่างหนัก รวมถึงบ่อนการพนันก็ระบาดไม่แพ้กันซึ่งพื้นที่บริเวณที่เขาอาศัยอยู่นี้เพิ่งจะตกเป็นข่าวดังจากกรณีบ่อนพนันต้นต่อแพร่ระบาดโควิดอีกด้วย