svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"ปานเทพ" เปิดโปงสมบัติ 4 หมื่นล้าน! "ขุนนิรันดรชัย" ยุคทองคณะราษฎร ฮุบสมบัติพระคลังข้างที่

12 มกราคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รายการเรื่องลับมาก ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.40 น. ทางเนชั่น ทีวี ช่อง 22 วันนี้ (12 ม.ค. 64) "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" สัมภาษณ์ "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต เรื่องทายาทคณะราษฎร ออกมาขอพระราชทานอภัยโทษ รัชกาลที่ 7 แทนบิดา

ตกลงเรื่องที่เขาพูดกันว่าถือน้ำพิพัฒน์สัตยาแล้วทำไม่เหมาะสมจะมีอันเป็นไป อาจารย์เชื่อมั้ย?
"ส่วนตัวเชื่อนะ การดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยา มีการดื่มในสมัย ร. 7 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองก็มีการยกเลิกไป มารื้ออีกที สมัย ร.9 แปลว่าบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับคณะราษฎรซึ่งเป็นทหาร ต้องผ่านพิธีเหล่านี้แล้วทั้งสิ้น พิธีสาบานตนต่อพระมหากษัตริย์ว่าจะมีความจงรักภักดี ฉะนั้นแล้วคนที่เขาสาบานโดยตรง เขาต้องรู้สึก เพราะเขาสาบานไปแล้ว"
"กรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เราคงนึกไม่ถึงว่าจะมีคนออกมาขอพระราชทานอภัยโทษ และไม่ใช่เฉพาะกับรัชกาลที่ 7 เพราะวันที่มีการขอพระราชทานอภัยโทษ มีพระบรมรูป 3 รัชกาล ร. 7 ร. 8 ร. 9 สามพระองค์เลย ทีนี้การขอพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ มาจากพลโทสรภฎ นิรันดร ทายาทขุนนิรันดรชัย คือพันตรีเสหวก นิรันดร ต้นตระกูลนิรันดร เป็นหนึ่งในคณะราษฎร สายทหารบก และได้ดำเนินการสำนึกผิดโดยลูกชาย"
"ลูกชายคนนี้ถามว่าทำไมมาขอพระราชทานอภัยโทษ ก็ได้ความว่า แท้ที่จริงแล้ว ความสำนึก และต้องการขอพระราชทานอภัยโทษมาจากคุณพ่อ พ่อเล่าด้วยน้ำตา เพราะตัวเองเป็นอัมพาต ขุนนิรันดรชัย เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งที่อยู่ในคณะราษฎร อยู่ในเลขาของนายกฯ พญาพหลฯ แล้วย้ายข้ามฟากมาเป็นผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ และเป็นราชเลขาในท้ายที่สุด และเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เยอะมาก"
"ทีนี้ความสำนึกผิดมี 2 เรื่อง เรื่องที่หนึ่งผิดต่อคำสาบานต่อการดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยา สองได้เบียดบังทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มาให้กับตัวเองและพวกพ้อง คำนี้เป็นคำที่มีความสำคัญ"

"ปานเทพ" เปิดโปงสมบัติ 4 หมื่นล้าน! "ขุนนิรันดรชัย" ยุคทองคณะราษฎร ฮุบสมบัติพระคลังข้างที่


ที่เขาเรียกท่อน้ำเลี้ยงคณะราษฎร หมายความว่าอะไร?
"จากการสำนึกผิดครั้งนี้ ถามว่าขุนนิรันดรชัยทำไมถึงสำนึกผิด เพราะบั้นปลายชีวิตตัวเอง อยู่ดีๆ ก็เป็นโรคความดันโลหิตสูงเกิดขึ้น รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย มีเงินเพราะรวยมากตั้งธนาคารนครหลวงไทย ก็เดินทางไปรักษาตัวที่อเมริกา ถึงขั้นผ่าตัดเพราะคิดว่าเป็นเนื้องอกในสมอง แล้วปรากฎว่าผ่าฟรี ไม่เจอเนื้องอกในสมอง แล้วก็เริ่มเจ็บทุกข์ทรมาน เริ่มเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตอยู่หลายปี ตอนอัมพาตน้ำตาร่วงไหลออกมา แล้วพลโทสรภฎ ตอนนั้นอายุ 14 ปี บอกว่าตัวเองได้กระทำความผิดสองเรื่อง เรื่องแรกคือผิดคำสาบาน และเบียดบังทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เป็นของตัวเอง"
"ความรู้สึกนี้ทำให้พลโทสรภฎฝังใจตั้งแต่อายุ 14 และคิดว่าวันนึงอยากจะทำ แต่คุณพ่อร้องไห้บอกว่าตัวเองทำไม่ได้เพราะเป็นอัมพาตแล้ว จนเสียชีวิต"
นอกจากตัวพ่อเองแล้ว ลูกชายที่ออกมาเหมือนจะเล่าว่าภายในตระกูลก็มีอันเป็นไปหลายคน?
"น่าแปลกมากที่ครอบครัวนี้มีความผิดปกติ เพราะว่าลูกขุนนิรันดรชัยก็ป่วยเส้นเลือดในสมองแตกหลายคน สองในรุ่นลูกด้วยกันปัจจุบันเหลือ 5 คน 4 คนที่เหลือยกเว้นพลโทสรภฎติดเตียงหมด นั่งรถเข็น เดินไม่ได้ อัมพาต และมีการฆ่าตัวตายในตระกูล บางคนก็ผิดปกติไปทางจิต"
ไม่ได้มีชีวิตที่มีคุณภาพ จนวันหมดลมหายใจ?
"ทุกคนมีความทุกข์ทรมาน และทะเลาะเบาะแว้ง ฟ้องร้องกัน พลโทสรภฎถือว่าเป็นรุ่นลูกคนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่และยังแข็งแรง รู้สึกว่าคนรอบข้างเป็นกันหมดเลย ตัวเองเลยอยากจะทำเพื่อสำนึกความผิด หวังว่าการขอพระราชทานอภัยโทษจะลดผลแห่งกรรมที่มีต่อตระกูลตัวเอง"
ได้ฟังคำขอพระราชทานอภัยโทษสั้นๆ ไม่ได้ยาวมาก อ่านเจตนาเขามั้ย ที่ออกมาต้องการอะไร?
"ผมก็ฟังจากที่เขาสัมภาษณ์ หนึ่งคือสำนึกผิดแทนพ่อ ที่ฝังใจตั้งแต่อายุ 14 ขวบ สองวาระตอนนี้มีการเคลื่อนไหวเรื่องคณะราษฎรเยอะ เรื่องประวัติศาสตร์ แล้วรู้สึกว่าสังคมเข้าใจผิด เลยอยากมาเผยแพร่ นี่คือเรื่องที่สอง เขาอยากให้เห็นอีกมุมนึงว่ามันไม่ใช่อย่างที่เห็น และไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะประวัติศาสตร์ด้านลบของคณะราษฎรถูกเผยแพร่น้อยมาก"

"ปานเทพ" เปิดโปงสมบัติ 4 หมื่นล้าน! "ขุนนิรันดรชัย" ยุคทองคณะราษฎร ฮุบสมบัติพระคลังข้างที่

ที่เขาบอกเข้าใจผิดคือ?
"มีด้านลบขึ้นด้วย การมองด้านลบเพื่อให้เราถอดบทเรียน และแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต แต่ถ้าเรามองไม่เห็นด้านลบ เราก็จะมองเป็นแค่วีรบุรุษทำอะไรถูกหมด รูปแบบนี้ถูกต้องแล้ว โดยไม่สนใจที่เนื้อหา ก็อันตราย"
"อีกเรื่องที่น่าสนใจคือเขาฟ้องร้องกันในตระกูล คุณนิรันดรชัยมีภรรยา 2 ท่านคนละครอบครัว พอถึงรุ่นลูกและรุ่นหลานก็เกิดการฟ้องร้องกัน ก็เป็นผลทำให้พลโทสรภฎตัดสินใจมาพูดความจริงว่าทรัพย์สมบัติบางส่วนมาจากทรัพย์สินพระคลังข้างที่พระมหากษัตริย์"
หลังเกิดอาการคนในบ้าน ที่ไม่ปกติจนวันสิ้นลมหายใจ ทำให้ลูกชายออกมาตรงนี้ ได้ข่าวว่าที่ดินที่มีการเบียดบังกัน เป็นที่สุดยอดแห่งราคาทั้งนั้น ตรงไหนบ้าง?
"หนึ่งเลยชัดๆ คือที่ดินหน้าวังสวนจิตรฯ ปัจจุบันเป็นเซนต์แอนดรูว์เช่าอยู่ แล้วได้ความว่าขุนนิรันดรชัยได้เงินก่อสร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พอได้เงินมาคงได้ค่าก่อสร้างมา ได้กำไรมาเป็นทรัพย์สินส่วนตัว ในที่ดินพระคลังข้างที่ นี่คือเบียดบังแล้ว และชัดเจนว่าเป็นที่ดินตรงข้ามวังเลย สองที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน คือที่ข้างพระราชวังไกลกังวล ติดกันเลยที่หัวหิน และไม่ใช่แค่นั้น ยังไม่รู้อีกเท่าไหร่ แต่รวมแล้ว 80 แปลงในกรุงเทพมหานคร สีลม สาทร วิทยุ เพลินจิต บางลำภู อีกหลายที่"
ตารางวาเกินล้านแทบทั้งสิ้น?
"ครับ เขาเลยวัดมูลค่าเมื่อปี 2551 ว่าประมาณ 4 หมื่นล้าน ปี 51 ตอนนี้ 64 ฉะนั้นมูลค่ามโหฬารมหาศาล ทีนี้่ทรัพย์สินเหล่านี้แน่นอนว่าเป็นจำนวนมากและมีเยอะมาก แต่ปรากฎว่าไม่ใช่แค่ขุนนิรันดรชัยเป็นผู้ได้รับทรัพย์สินจากพระมหากษัตริย์เท่านั้น ปรากฎว่าเหตุการณ์ความจริงปรากฎ วันที่ 28 ก.ค. 2480 มีการอภิปรายในสภา 1 ครั้ง โดยนายเลียง ไชยกาล ซึ่งเป็นส.ส.จ.อุบลราชธานี ได้เปิดเผยว่ามีกลุ่มคนในคณะรัฐบาล ตั้งแต่รัฐมนตรี ส.ส.ประเภทที่สอง คือที่คณะราษฎรเลือกกันมาเอง และข้าราชการในกระทรวง วัง ข้าราชการในราชเลขานุการในพระองค์รุมซื้อที่ดินพระคลังข้างที่ในราคาถูกๆ เรียกว่าเป็นขบวนการ และเป็นช่วงเวลาที่ร.8 ทรงพระเยาว์อยู่ต่างประเทศ ดังนั้นจึงอยู่ภายใต้คณะผู้สำเร็จราชการที่คณะราษฎรเลือกกันเอง และมาจัดสรรตัดแบ่งขายที่ดินในราคาถูกๆ ให้ตัวเอง จำนวนหลายสิบแปลง ที่เปิดเผยในสภาแค่ 25 คนเท่านั้น"
แสดงว่าจริงๆ มีมากกว่านั้น?
"มีมากกว่านั้น และมีที่ดินจำนวนเยอะมากกว่านั้น"
แค่คนๆ เดียว 80 แปลงเข้าไปแล้ว แต่นี่ 25 คน เท่าที่อ่านบทความอาจารย์มีการซื้่อขายกันในราคาถูกมาก สองมีการแอบอ้างว่าพระราชทานให้ ที่ผ่อนอยู่ก็หยุดผ่อน อยากให้เล่าตรงนี้?"ที่ดินกลุ่มคนที่ได้ในยุคนั้นคือนักการเมือง ได้ในราคาถูกกว่าตลาด สองไม่ต้องจ่ายเงินสด ผ่อนซื้อ และไปปล่อยเช่าในราคาแพงกว่าที่ตัวเองผ่อนซื้อ เหมือนได้มาฟรีๆ และได้รายได้ด้วย ตอนหลังมีข่าวว่าหลายคนหยุดผ่อนซื้อ แต่ได้วิธีขอพระราชทานขอยกหนี้สิน และยกที่ดินไป"
ซึ่งรัชกาลที่ 8 ประทับอยู่ต่างประเทศ?
"ทั้งหมดเป็นเรื่องขบวนการคณะผู้สำเร็จราชการที่ได้การเลือกมาจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งครึงนึงมาจากคณะราษฎรเลือกกันเอง"

"ปานเทพ" เปิดโปงสมบัติ 4 หมื่นล้าน! "ขุนนิรันดรชัย" ยุคทองคณะราษฎร ฮุบสมบัติพระคลังข้างที่


แต่ส่วนหนึ่งมีราชวงศ์อยู่ในนั้นด้วย ทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?
"พระองค์เจ้าอาทิตย์ ทิพอาภา เป็นประธานคณะผู้สำเร็จราชการ แต่ท่านก็ได้ขายที่ดินส่วนตัวให้พระคลังข้างที่ ในราคาแพงกว่าตลาด สมมติขายให้พระคลังข้างที่ในราคา 35 บาทต่อตารางวา แต่ปรากฎว่ารอบข้างราคาเพียง 15 บาทต่อตารางวาเท่านั้น นี่ยกตัวอย่างนะ แม้แต่ประธานคณะผู้สำเร็จราชการก็ได้ประโยชน์ส่วนตัวด้วย เรื่องนี้ต้องพูดอีกยาวถึงเรื่องหนังสือพระราชทานเพลิงศพของพระองค์อาทิพย์ บั้นปลายชีวิตท่านเขียนไว้ว่ายังไง และท่านเสียใจเรื่องอะไร ท่านอยากได้การอภัยเรื่องอะไร ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องทำนองนี้ เรื่องสถานการณ์แบบนี้ ก็แปลว่าเรื่องพระคลังข้างที่มันหายจากประวัติศาสตร์ไป ผมไปดูหนังสือประวัติศาสตร์ที่นักเรียน นักศึกษาเขาอ่านกัน มันจะมีประวัติศาสตร์เรื่องทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวสละราชสมบัติ จนปี 90 หายไปเฉยๆ กลับมาอีกทีบอกว่าฝั่งเจ้าเอาทรัพย์สินคืนมา และพูดถีงเรื่องต่างๆ ต่อเรื่องทรัพย์สินพระมหากษัตริย์หลังปี 90 มันเกิดประวัติศาสตร์ที่เป็นจิ๊กซอว์หายไป ระหว่างปี 2478-2490"
ใช้คำว่าช่วงปล้นทรัพย์พระมหากษัตริย์ไป มันหายไปจากประวัติศาสตร์ และกลับมามีช่วงที่ทรัพย์กลับคืนมา เป็นการกู้กลับ ซึ่งจริงๆ ไม่ได้ไปเอาสมบัติใครมา เป็นสมบัติของท่านที่ถูกปล้นไปช่วงนั้น?
"ใช่ครับ และทรัพย์สินที่หายไป ผมศึกษาเพิ่มเติม มันมากกว่าเรื่องที่ดินพระคลังข้างที่ ข้อที่หนึ่งขุนนิรันดรชัย เป็นผู้นำเงินของพระมหากษัตริย์ไปให้จอมพลป.พิบูลสงคราม ซึ่งเรียกว่าท่อน้ำเลี้ยงให้เป็นการส่วนตัว และพลโทสรภฎก็สารภาพว่าเป็นจริง ข้อที่สองในหนังสืองานศพขุนนิรันดรชัย จอมพลป.พิบูลสงครามเขียนคำนิยมให้นะครับ มีสองคนเท่านั้นที่เขียนคำไว้อาลัยขุนนิรันดรชัย คนนึงคือจอมพลป. แล้วจอมพลป.เขียนว่าต้องขอบคุณขุนนิรันดรชัยที่ช่วยเหลือเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวมาโดยตลอด นั่นคือเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้มาโดยตลอด"

"ส่วนคนที่สองที่เขียนคำไว้อาลัยคือหลวงธํารงนาวาสวัสดิ์ เพราะเขาเป็นเลขาครม. ขุนนิรันดรชัยเป็นราชเลขาธิการของพระองค์ และไม่ทราบมีเงินมาจากไหน ไปตั้งธนาคารนครหลวงไทยมา 1 แห่ง และร่วมกิจการด้วยกัน ผมก็ถามว่าเป็นข้าราชการมีเงินถึงขั้นตั้งธนาคารพาณิชย์ได้ เอาเงินมาจากไหน พลโทสรภฎก็บอกว่าขุนนิรันดรชัยในช่วงแรก ไม่มีเงินอย่างอื่นเลย นอกจากเงินจากพระมหากษัตริย์มาเป็นเงินส่วนตัวเท่านั้น"
ถ้าดูในแง่ของยศเขาเป็นแค่ขุน ทำไมเขาถึงกลายเป็นคนมีบทบาทสำคัญได้ขนาดนั้น บอกที่มาที่ไป ทำไมเขาถึงกลายเป็นคนสำคัญ?
"เขาอายุน้อยกว่าจอมพลป. และอยู่ในหนึ่งในคณะราษฎร ตอนแรกบทบาทไม่เยอะ ตอนเริ่มมีบทบาทคือตอนร่วมกับจอมพลป.ไปปราบกบฎบวรเดช แล้วเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ขุนนิรันดรชัยมาเป็นเลขานายกฯ คือพระยาพหลพลพยุหเสนา จากนั้นปรากฎว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวสละราชสมบัติ ขุนนิรันดรชัยก็ย้ายจากเลขานายกฯ มาเป็นผู้ช่วยราชเลขาในพระองค์ของคณะผู้สำเร็จราชการ ตอนนั้นร. 8 ครองราชย์ ขุนนิรันดรชัยมีบทบาท ในวันที่ 1 ส.ค. 2478 หลังจากนั้นอีก 10 วันไม่น่าเชื่อประธานคณะผู้สำเร็จราชการ ยิงพระองค์เองตาย"

"ปานเทพ" เปิดโปงสมบัติ 4 หมื่นล้าน! "ขุนนิรันดรชัย" ยุคทองคณะราษฎร ฮุบสมบัติพระคลังข้างที่


ทำไม?
"สาเหตุถกเถียงกันหนักมาก แต่หลักฐานชิ้นหนึ่งในวันที่พระองค์สิ้นพระชนม์ ปรากฎว่ามีการประกาศกฎหมายหนึ่งฉบับเพื่อเอาทรัพย์สินพระมหากษัตริย์มาอยู่ภายใต้นายกรัฐมนตรี และงานเอกสารทั้งหมดให้อยู่ภายใต้ราชเลขานุการในพระองค์ คือขุนนิรันดรชัย และนำไปสู่ท้ายที่สุด นอกจากการแบ่งแยกพระคลังข้างที่ ก็เป็นจุดเริ่มต้นการฟ้องร้องพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ยึดทรัพย์พระองค์ท่านและพระนางเจ้ารำไพพรรณี รวมทั้งวังสุโขทัย ปรากฎการณ์นี้เกิดจากขบวนการการปราบกบฎบวรเดช ทำให้ฐานะจอมพลป. มีอิทธิพลมาก เพราะสามารถตั้งศาลพิเศษ ประหารคนได้ ทุกคนกลัวหมด นายกฯ ก็กลัว แม้แต่คณะ ผู้สำเร็จราชการก็ต้องยินยอม ขุนนิรันดรชัยจึงเป็นตัวออกหน้าแทนจอมพลป. ในการประสานเอาทรัพย์สินกษัตริย์มาให้จอมพลป. แล้วสามารถประสานกับนายทุนต่างๆ โดยเฉพาะตระกูลล่ำซำ เอาเงินเอาทรัพย์สินมาให้จอมพลป. แล้วทำให้เกิดปรากฎการณ์ฝ่ายภาครัฐได้ดำเนินการก่อร่างสร้างตัวทำธุรกิจของตัวเองอีกหลายอย่างมาก"
แสดงว่าทุกคนกลัวมากจนยอมหมด ขุนนิรันดรชัยมีบทบาทตรงนี้?
"พระยาพหลพลพยุหเสนเป็นนายกฯ ในช่วงแรก หลังภารกิจปล้นพระคลังข้างที่ได้แล้ว อีก 7 เดือนต่อมาขุนนิรันดรชัยก็ยกฐานะเป็นราชเลขานุการในพระองค์ ตรงนี้่สำคัญ และหลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็เป็นที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เลยทำให้ขุนนิรันดรชัยกลายเป็นกรรมการที่มีฐานะทั้งหุ้นส่วนตัว และในฐานะตัวแทนพระคลังข้างที่เข้าไปในธนาคารไทยพาณิชย์ และตัวเองก็มีธนาคารนครหลวงไทย เพราะฉะนั้นแล้วก็เลยมีสองธนาคาร ในขณะเดียวกัน อ.ปรีดี พนมยงค์ก็ให้ธรรมศาสตร์ไปตั้งธนาคารเอเชีย แล้วน้องชายอ.ปรีดี ก็ไปสร้างธนาคารกรุงศรีอยุธยา คณะราษฎรก็มีสองปีก ของสายอาจารย์ปรีดีก็ฝั่งนึง ของสายขุนนิรันดรชัยก็อีกสายนึง แต่ตอนนั้นคนจีนมีอิทธิพลเยอะ คุมธนาคารหมด เขาก็คิดว่าการสถาปนาทุนของรัฐจะเป็นทางออกในการแก้ปัญหาเพราะเขาไม่ได้ยึดที่ดินฝ่ายเจ้าทั้งหมดทั้งประเทศ เขาก็พยายามก่อร่างสร้างตัวทางเศรษฐกิจ แต่ปรากฎว่ากิจการรัฐวิสาหกิจซึ่งรัฐผูกขาดการค้าข้าวก็ดี การส่งออกก็ดี ธนาคารที่รัฐตั้งก็ดี พอถึงกำไร ก็ขายหุ้นเพิ่มเติม มีแตกคณะราษฎรเข้าไปซื้อหุ้น โดยที่เงินตัวเองไม่ต้องลง มีเงินทรัพย์สินกระทรวงการคลัง ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์มาลง แล้วตัวเองก็พ่วงไปกับกระบวนการผูกขาดเหล่านี้ได้ด้วย นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีใครพูดถึงประวัติศาสตร์ก่อน 2490 จะมีการกู้กลับในทรัพย์สินเหล่านี้"
แต่มักพูดหลัง 90 ว่าสถาบันมาเอาไป แต่จริงๆ แล้วเป็นการกู้คืนทรัพย์สินที่ถูกปล้นไป?
"ใช่ ซึ่งถ้าประวัติศาสตร์ตรงนี้ไม่ครบถ้วน เราจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเกิดปฏิกิริยาต่อสู้กันขนาดนั้น"
สังคมตอนนี้ก็มีคนทำให้เด็กๆ เข้าใจหลัง 90 แต่ช่วงเวลาที่หายไป 78-90 หายไปเลย จากการที่ทายาทออกมาขอพระราชทานอภัยโทษ คิดว่าเขาจะคืนมั้ย?
"เป็นคำถามสำคัญมาก แม้การขอพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้จะเป็นการปลดปล่อยจิตวิญญาณพลโทสรภฎ นิรันดร และขุนนิรันดรชัย คำถามต่อมาคือเขาจะคืนทรัพย์สินมั้ยหรือจะแค่การจัดฉากเท่านั้น ก็ต้องเข้าใจว่าตระกูลนิรันดร ตอนนี้มีทายาทเยอะมาก เป็นมหาเศรษฐีหลายคน เป็นคนในแวดวงชั้นสูงหลายคน ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทรัพย์สินไม่ได้อยู่ในมือพลโทสรภฎคนเดียว แต่ผมถามพลโทสรภฎว่าต้องการจะคืนมั้ย เขาบอกว่าต้องการจะคืนอย่างยิ่ง และผมก็เชื่อว่าการแถลงข่าวของเขาจะนำไปสู่แรงกดดันครอบครัวที่เหลือ เพราะสังคมรู้แล้วว่าทรัพย์สินที่ได้มา ได้มาอย่างไร และสามารถมีที่ยืนในสังคมต่อไปจริงๆ หรือเปล่า ฉะนั้นแล้วผมคิดว่าเจตนาพลโทสรภฎ ต้องการจะคืน แต่การจะคืนต้องมีความเข้าใจและแรงกดดันทางสังคมมากพอที่คนในตระกูลจะเห็นพ้องต้องกันได้"
ส่วนแบ่งทายาทอาจต้องรอแรงกดดันจากสังคม ถ้าแรงกดดันไม่พอ อาจไม่คืนก็ได้?
"ใช่ครับ"

logoline