นายขจร ศรีชวโนทัย รองอธิบดี สถ. ได้เน้นย้ำถึงข้อสั่งการเชิงนโยบายในการปฏิบัติตามมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) โดยขอความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการตามมาตรการที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนการทำงานของจังหวัด ดังนี้
อ่านข่าว - ศบค.เผยไทยติด"โควิด-19" เพิ่ม 287 ราย ทั่วโลกทะลุ 91 ล้านราย
(1) มาตรการป้องกันการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
(2) มาตรการเข้มงวดต่อการลักลอบเล่นการพนัน
(3) มาตรการต่อกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค โดยงดออกใบอนุญาตการจัดให้มีการเล่นพนันชนไก่ กัดปลา ชกมวย แข่งม้า ชนโค และไพ่ผ่องไทย หากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลยจะถือว่าเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่แต่ละระดับที่เกี่ยวข้อง
(4) การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ และการเตรียมความพร้อมของวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการบริหารจัดการ
(5) การประชาสัมพันธ์ แนะนำการดาวน์โหลดและใช้งานระบบแอปพลิเคชัน "หมอชนะ" โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับอาสาสมัครในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ แนะนำการดาวน์โหลดและใช้งานระบบแอปพลิเคชัน "หมอชนะ" และขอความร่วมมือสถานศึกษาหรือศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในพื้นที่มอบหมายให้บุคลากรในสังกัดให้ความช่วยเหลือ/แนะนำ ในการดาวน์โหลดและใช้งานระบบแอปพลิเคชัน "หมอชนะ" แก่ประชาชน
ศบค. มท. ส่วนหน้า ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ยังได้มีการหารือในส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกับท้องถิ่นจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดสามารถประสานการปฏิบัติ ให้คำแนะนำแก่จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย มีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ ประกอบด้วย (1) แนวทางการใช้จ่ายเงินทดรองราชการและการใช้จ่ายงบประมาณในการป้องกันและควบคุมโรคตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 โดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่ถูกกักกัน สถานที่กักกัน/ควบคุม เจ้าหน้าที่ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (2) ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณของ อปท. กรณีการระบาดของโรคโควิด-19 (3) การเตรียมความพร้อมจัดตั้งศูนย์ควบคุมเพื่อสังเกตการณ์เริ่มป่วย (Local Quarantine) ในทุกจังหวัด (4) ขอความร่วมมือ อปท. ทุกแห่ง ดำเนินการตามมาตรการจัดการขยะในช่วงโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อลดและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องและพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ นอกจากนั้น ยังควรวางแผนและจัดเตรียมทรัพยากรในการจัดการมูลฝอยติดเชื้อ เช่น บุคลากร วัสดุ อุปกรณ์ ยานพาหนะ เพื่อรองรับสำหรับการจัดการมูลฝอยติดเชื้อในกรณีวิกฤติ
นอกจากนี้ สถ. ยังได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับบริจาคจากเครือบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์สเปรย์แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดมือ ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มเด็ก ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนมเด็ก ให้แก่ 5 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด ประกอบด้วย สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เพื่อใช้สนับสนุนภารกิจสู้ภัย COVID-19 อีกด้วย.