"เชอร์รี่ชิลี" อร่อยและมากด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
เมื่อเราถามนักท่องเที่ยวว่าประทับใจอะไรมากที่สุดสำหรับการมาเยือนประเทศไทย ส่วนใหญ่มักตอบว่าผลไม้ที่แปลกใหม่ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เพราะผลไม้เป็นที่นิยมมากในประเทศไทยจนได้รับการขนานนามว่าเป็นประเทศแห่งผลไม้
คนไทยต่างชอบเชอร์รี่เช่นเดียวกับอาหารไทยท้องถิ่นเพราะมีเส้นใยสูง มีวิตามินและแร่ธาตุที่มีคุณค่าทางโภชนาการ แต่ในขณะที่เชอร์รี่ไทยเป็นผลไม้ที่น่ารับประทาน แต่ก็ยังมีเชอร์รี่อีกชนิดหนึ่งซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรับประทานเมื่อเชอร์รี่ไทยไม่อยู่ในฤดูกาล มีความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า นั่นก็คือ เชอร์รี่ชิลี
เชอร์รี่ชิลีรสชาติหวานฉ่ำและสีแดงเข้มข้นเป็นพิเศษนี้ได้มาถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยและได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลเช่น คริสต์มาส ปีใหม่และแม้กระทั่งเป็นของขวัญที่ดีสำหรับวันวาเลนไทน์
สำหรับเรื่องความสดใหม่และความปลอดภัยของอาหารยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนไทยมาโดยตลอดและเชอร์รี่ชิลีมีความสดใหม่และปลอดภัยเช่นกัน
นอกเหนือจากความสดใหม่ สีเข้มข้น และรสชาติที่เหนือกว่าแล้ว เชอร์รี่ชิลียังเป็นที่ต้องการของทั่วโลกด้วยเหตุผลที่สำคัญกว่านั่นคือ สารอาหาร / คุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก ซึ่งการรับประทานเชอร์รี่ชิลีทำให้คุณได้รับประโยชน์มากมาย เพราะเชอร์รี่เหล่านี้อุดมไปด้วยสารแอนโธไซยานินซึ่งเป็นกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่สูง
โดยเชอร์รี่ชิลีทุก 100 กรัม (ประมาณ 12-15 ลูก) มีสารแอนโธไซยานินไกลโคไซด์มากถึง 79.65 มก. ซึ่งช่วยปกป้องร่างกายของคุณจากการทำลายเซลล์แก่ก่อนวัยและโรคอื่น ๆ ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ เชอร์รี่ชิลีที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถต่อสู้และป้องกันมะเร็งบางชนิดได้ และเนื่องจากสารแอนโธไซยานินที่มีอยู่ในปริมาณมากยังสามารถมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้เช่นกัน ดังนั้นเชอร์รี่ชิลีจึงอาจจะช่วยป้องกันและจัดการกับโรคอักเสบได้ เช่น โรคเกาต์และโรคข้ออักเสบ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นของว่างหลังออกกำลังกายเพื่อบรรเทาอาการปวดและอักเสบได้ดีอีกด้วย
รวมถึงสารเบต้าแคโรทีนในระดับที่มีนัยสำคัญในเชอร์รี่ชิลี ทำให้ร่างกายของคุณสามารถต่อสู้กับไข้หวัด การติดเชื้อที่ผิวหนัง โรคตาบอดกลางคืนและปัญหาสายตาอื่น ๆ โดยเชอร์รี่ชิลีรสหวานทุก 100 กรัม มีสารเบต้าแคโรทีนประมาณ 770 ไมโครกรัม ซึ่งสูงกว่าปริมาณที่มีอยู่ในผลไม้ไทยยอดนิยมอื่น ๆ เช่น ทุเรียน แตงโมและฝรั่ง
ส่วนใหญ่คนไทยนิยมรับประทานเชอร์รี่ชิลีกันอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากช่วยในด้านการเสริมความงาม ซึ่งการใช้เชอร์รี่ชิลีบด (เพียงอย่างเดียวหรือผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ) เพื่อทำความสะอาดผิวสัปดาห์ละสองสามครั้ง สามารถช่วยรักษาผิวให้ดูสดใสและสุขภาพดีได้อย่างง่ายดาย และการรับประทานเชอร์รี่ชิลีอาจช่วยให้คุณนอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น จากการศึกษาที่ได้จัดทำขึ้นโดยให้ผู้เข้าร่วมต้องดื่มน้ำเชอร์รี่ทาร์ต ถ้วยทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืน ผลปรากฏว่าผู้ที่ดื่มน้ำเชอร์รี่ทาร์ตนั้นนอนหลับได้นานขึ้นกว่าเดิม
โดยเชอร์รี่ชิลีที่ส่งออกมายังประเทศไทยนั้นมีหลากหลายพันธุ์ ได้แก่ เชอร์รี่บิง (Bing Cherry) ซึ่งมักมีขนาดใหญ่ สีแดงเข้มหรือสีม่วงและมีรสหวาน เชอร์รี่เรนเนียร์ (Rainier Cherry มีสีเหลืองหรือชมพูและมีรสอ่อนกว่าเชอร์รี่บิง เชอร์รี่ลาพิน (Lapins Cherry) มีรสหวานและเกือบจะเป็นสีแดงเข้มเช่นเดียวกับเชอร์รี่บิง แต่เนื้อแน่นกว่า เชอร์รี่ซานติน่า (Santina Cherry) มีสีเดียวกับเชอร์รี่ลาพิน แต่มีขนาดใหญ่กว่าด้วยผิวที่เต่งตึงและเงางามมากกว่า และเชอร์รี่สวีทฮาร์ต (Sweetheart Cherry) มักจะเป็นสีแดงเข้มหริอสีม่วงมีรูปร่างเหมือนหัวใจ มีรสหวานและเปรี้ยวอ่อน ๆ สายพันธุ์เชอร์รี่ชิลีทั้งหมดนี้มีความสดใหม่ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และแน่นอนว่าปลอดภัยต่อการบริโภคอย่างแท้จริง
สำหรับฤดูเชอร์รี่ชิลีในปี 2020-2021 นี้ ทางคณะกรรมการเชอร์รี่ของชิลีภายใต้การอุปถัมภ์ของสมาคมผู้ส่งออกผลไม้ชิลี (ASOEX) อยู่ระหว่างการเปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการขายเชอร์รี่ครั้งแรกในประเทศไทยโดยใช้สื่อส่งเสริมการขายที่สะดุดตาซึ่งจัดแสดงในร้านค้าทั่วไป และเมื่อเริ่มฤดูเก็บเกี่ยวได้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม การจัดส่งเชอร์รี่ชิลีมายังประเทศไทยจะดำเนินต่อไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ขณะนี้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถหาซื้อเชอร์รี่ชิลีที่สดใหม่และปลอดภัยในซุปเปอร์มาร์เก็ตได้แล้ววันนี้