"วังจันทร์วัลเลย์" เมืองอัจฉริยะต้นแบบ Smart City กับภารกิจพลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมไทย

ด้วยเหตุนี้ จึงได้ถือกำเนิด "วังจันทร์วัลเลย์" ขึ้นมา เพื่อเป็นฐานที่มั่นสำคัญของเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) ในการยกระดับขีดความสามารถงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม ซึ่งได้รับการพัฒนาโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

โดยรายละเอียดโครงการ "วังจันทร์วัลเลย์" ถูกออกแบบขึ้นมาโดยใช้แนวคิด Smart Natural Innovation Platform เพื่อเนรมิตพื้นที่ให้เป็น "เมืองนวัตกรรมแห่งอนาคต" มีระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ 160 กิโลเมตร ตั้งอยู่ใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง บนพื้นที่ขนาด 3,454 ไร่ โดยจะเปิดให้ภาคธุรกิจเข้าใช้พื้นที่ทั้งเอกชนไทยและต่างประเทศใน 6 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่

- อุตสาหกรรม แบตเตอรี่และยานยนต์สมัยใหม่

- อุตสาหกรรม ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ

- อุตสาหกรรม การบินและอวกาศ

- อุตสาหกรรม เครื่องมือแพทย์

- อุตสาหกรรม เชื้อเพลิงและเคมีชีวภาพ

- อุตสาหกรรม เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ

ปัจจุบัน วังจันทร์วัลเลย์ ได้รับการประกาศเป็นเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมในการพัฒนาสู่เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ของประเทศ และเป็นพื้นที่ที่ได้รับการส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ด้วยระบบนิเวศนวัตกรรมที่เป็นเลิศ และแผนพัฒนาระบบอัจฉริยะต่าง ๆ ครบทั้ง 7 ด้าน ตามหลักเกณฑ์การส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ Smart City Thailand ประกอบด้วย

-Smart People มุ่งเน้นการพัฒนาความรู้และการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์

-Smart Living มุ่งเน้นความปลอดภัยและบริการที่เพียบพร้อม

-Smart Environment มุ่งเน้นการบริการจัดการสภาวะแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ถูกสุขลักษณะ มุ่งสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ

-Smart Mobility มุ่งเน้นความสะดวก ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในการเดินทางและขนส่ง

-Smart Energy ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน โดยติดตั้ง Solar Farm และ Solar Roof Top

-Smart Governance มีโครงข่ายเชื่อมโยงกับหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนต่างๆ มีการให้บริการแบบ One Stop Service

หากเดินเข้าไปภายในโครงการจะพบกับ 3 โซนหลัก ๆ คือ พื้นที่เพื่อการศึกษา (Education Zone), พื้นที่เพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม (Innovation Zone) และ พื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก ที่พักอาศัยและสันทนาการ (Community Zone)

ในส่วนของ พื้นที่เพื่อการศึกษา (Education Zone) ภายใน "วังจันทร์วัลเลย์" เป็นที่ตั้งของสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) และ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) สร้างขึ้นมาเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เติบโตในสายงานวิจัยและนวัตกรรม ด้วยอุปกรณ์และห้องปฏิบัติการที่ล้ำสมัย พร้อมกับคณาจารย์ผู้มีความสามารถ

อีกทั้งยังมี "ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์" ครอบคลุมพื้นที่จำนวน 351.36 ไร่ เป็นพื้นที่สีเขียวยั่งยืนใช้สำหรับการศึกษา วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้ด้านการจัดการป่าไม้ ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ระบบบริหารจัดการน้ำ และพื้นที่ป่าปลูกสำหรับงานวิจัย

นอกจากนั้นยังมี "ศูนย์เรียนรู้เกษตรนวัต สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา" เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ในการพัฒนาพื้นที่เกษตร ด้วยแนวคิดวนเกษตร เกษตร พร้อมพัฒนาผลผลิตเกษตรสมัยใหม่ด้วยระบบ Smart Farming แก่นักเรียนและผู้ที่สนใจ

ส่วนในโซน พื้นที่เพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม (Innovation Zone) จะมีอาคารศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ (Intelligent Operation Center: IOC) ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการควบคุมระบบทั้งหมดด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย สามารถใช้งานระบบ "5G Playground" เพื่อทดลอง ทดสอบนวัตกรรมที่จำเป็นต้องใช้โครงข่าย 5G นอกจากนั้นยังสามารถใช้งาน "UAV Regulatory Sandbox" หรือการอนุญาตให้บินโดรนเพื่อการวิจัยนวัตกรรมในพื้นที่ วังจันทร์วัลเลย์ ได้เป็นเป็นกรณีพิเศษอีกด้วย

สุดท้ายโซนที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือ พื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก ที่พักอาศัยและสันทนาการ (Community Zone) ซึ่งถือเป็นมุมสำหรับผ่อนคลายที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เป็นจุดที่สร้างแรงบันดาลใจในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รายล้อมไปด้วย โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์การค้า นันทนาการ สถานที่ออกกำลังกาย พื้นที่สีเขียว สถานที่พบปะสังสรรค์ โรงแรม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอย่างครบวงจร

ขณะนี้ภายใน "วังจันทร์วัลเลย์" ได้เปิดพื้นที่ เพื่อรองรับ 5G Play Ground และ UAV Regulatory Sandbox ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และเทคโนโลยี 5G ให้พร้อมสำหรับการทดลอง ทดสอบ นวัตกรรมต่าง ๆ หากใครที่สนใจเข้ามาใช้งานในพื้นที่ของวังจันทร์วัลเลย์จะได้รับสิทธิประโยชน์ช่วยเหลือในด้านงานวิจัยและนวัตกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น..

- ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สูงสุด 13 ปี

- ยกเว้นภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ

- ภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา ร้อยละ 17 ซึ่งต่ำที่สุดในเอเชีย

- สมาร์ทวีซ่า สำหรับผู้เชี่ยวชาญและครอบครัว

- พื้นที่ผ่อนปรนกฎระเบียบในการทำนวัตกรรม (Regulatory Sandbox)

- ศูนย์บริการด้านการลงทุนแบบเบ็ดเสร็จในที่เดียว (One Stop Service) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน

นอกจากนั้นภายในปี 2564 ทางด้าน ปตท. ได้เร่งสร้างระบบ Ecosystem เพื่อเป็นตัวกลางในการมองหาแนวร่วมเข้ามาสร้างสรรค์และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ สำหรับการผลิตนวัตกรรมใหม่ๆในอนาคตต่อไป

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อีเมล [email protected] หรือ www.wangchanvalley.com