svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เพื่อไทยแนะรัฐจัดสรรงบพยุงสถานการณ์ประเทศช่วงโควิด

11 มกราคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เพื่อไทย" จัดเสวนา "รับมือโควิดอย่างไร ไม่ให้ประเทศพัง" แนะมาตรการสู้โควิดพยุงปัญหาเศรษฐกิจประเทศ ชี้รัฐควรเอาบทเรียนจากการระบาดครั้งแรกมาปรับใช้ เสนอรบ.ช่วยผู้ประกอบการคงจ้างงานร้อยละ 50-60 ทั้งแรงงานในและนอกระบบ

11 มกราคม 2564 พรรคเพื่อไทยได้จัดเสวนาผ่านโปรแกรมซูมในหัวข้อ "รับมือโควิดอย่างไร ไม่ให้ประเทศพัง" โดยคณะกรรมการนโยบายและวิชาการพรรคเพื่อไทย

โดยนายนพดล ปัทมะประธานคณะกรรมการนโยบายและวิชาการพรรค กล่าวว่า ภาครัฐต้องเรียนรู้จากการระบาดครั้งแรก โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ที่ต้องมีมาตรการเยียวยาออกมาพร้อมกันทันที อีกทั้ง รัฐยังต้องลงทุนกับสิ่งที่คาดว่า จะเป็นจุดแข็งของประเทศไทยในอนาคต คือ ลงทุนในมนุษย์ด้านการศึกษา ลงทุนในระบบน้ำอย่างครบวงจร เพื่อให้เป็นศูนย์รวมอาหารของโลก และลุงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา

ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์รองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงมาตรการทางการคลังรับมือโควิดว่า รัฐบาลต้องเยียวยาให้มากกว่า 15,000 บาท หรือนำนโยบายที่เคยดำเนินการช่วงระบาดครั้งแรกกลับมาอีกครั้ง เช่น น้ำฟรี ไฟฟรี รถเมล์ฟรี รวมถึงถึงปัญหาที่ต้องแก้ไขที่ระบบศุลกากร ที่เคยมีต่างประเทศท้วงติงมา พร้อมแนะนำให้ปรับปรุงระบบภาษีให้ลดความเหลื่อมล้ำ และจัดระเบียบงบประมาณแบบใหม่ลดงบประมาณของทหารและความมั่นคงลง เพื่อนำไปดำเนินการอย่างอื่นที่จำเป็น และต้องการเห็นภาครัฐดำเนินจัดการ "เวิร์กฟอร์มโอม-เลิร์นฟอร์มโฮม-บายฟอร์มโฮม"  อ่านข่าว - ศบค. เผยไทยติด"โควิด-19" เพิ่ม 249 ราย

ขณะที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณ มาตรการทางการเงินรับมือโควิดและซอฟโลน ที่ควรพึงใช้มาตรการในยามที่ไม่เป็นปกติ คือ ตั้งกองทุนเพื่อดูแลภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิดในวงเงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดความหายนะผ่านพ้นไปได้ ทั้งปัญหาประชาชนตกงาน ภาคธุรกิจที่ล้ม การจ้างงานที่หยุดชะงัก โดยย้ำว่าไม่ได้ต้องการให้เกิดความอ่อนแอตามมาตรการทางการเงิน ซึ่งเชื่อว่ามาตรการนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อระบบการเงินในประเทศ และยังชี้ว่าซอฟโลนไม่สามารถผลักดันเศรษฐกิจได้ ด้วยเงื่อนไขที่สูงโดยรัฐต้องผ่อนปรน


เพื่อไทยแนะรัฐจัดสรรงบพยุงสถานการณ์ประเทศช่วงโควิด



นายเผ่าภูมิ โรจนสกุลรองเลขาธิการ และผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรค กล่าวว่า มาตรการเยียวยาแรงงานทั้งในและนอกระบบ ซึ่งอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 2 เท่า จากการล็อกดาวน์ สูงสุดในรอบ 11 ปี ดังนั้น มาตรการด้านแรงงานยังแก้ไม่ตรงจุด เปรียบเหมือนทำให้คนตายแล้ว มาช่วยค่าทำศพ โดยพรรคเสนอมาตราการโครงการจ้างงาน ที่เป็นมาตรการใช้ทั่วโลกแต่ไม่ได้เกิดในประเทศไทย โดยแรงงานในระบบ การดำเนินการภาครัฐจ่ายเงินไปยังนายจ้าง เพื่อให้ลูกจ้างได้รับเงิน และลูกจ้างไม่ตกงาน โดยจ่ายแบบขั้นบันไดร้อยละ 50-60 โดยมีข้อตกลงว่าผู้ประกอบการต้องรักษาการจ้างงานร้อยละ 90

ส่วนแรงงานนอกระบบ เสนอให้จ่ายเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยจ่าย 6,000 บาท ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเสนอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้ประกอบการที่สามารถจ้างงานเพิ่มในช่วงวิกฤตได้ และให้ภาครัฐสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่ เพื่อให้นายจ้างและลูกจ้างที่ตกงานเจอกันผ่านระบบเอไอ


logoline