svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

"วอชิงตัน" ขยายภาวะฉุกเฉินอีก 15 วัน

07 มกราคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"กรุงวอชิงตัน" ประกาศขยายภาวะออกไปอีก 15 วัน จนกว่าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน จะผ่านพ้นไป หลังมีผู้เสียชีวิต 4 ราย จากเหตุจลาจลม็อบบุกสภาสหรัฐ

7 มกราคม 2564 นางมูเรียล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ได้ประกาศขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตันออกไปอีก 15 วัน จนกว่าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน จะผ่านพ้นไป
ก่อนหน้านี้นางบาวเซอร์ ได้ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันพุธไปจนถึงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ส่งผลให้ต้องมีการล็อกดาวน์อาคารรัฐสภา และทำให้การนับคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งและกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายไบเดนต้องหยุดชะงักลง        

"วอชิงตัน" ขยายภาวะฉุกเฉินอีก 15 วัน

 "การประท้วงได้บานปลายกลายเป็นการจลาจล ประชาชนจำนวนมากได้เดินทางเข้ามายังกรุงวอชิงตันพร้อมด้วยอาวุธ และมีเป้าหมายที่จะเข้าร่วมในการก่อเหตุรุนแรงและทำลายทรัพย์สิน พวกเขายิงวัตถุเคมี ขว้างปาก้อนอิฐ ขวด และยิงปืน การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการทำลายความมั่นคงของรัฐสภา พฤติกรรมการก่อเหตุทำลายทรัพย์สินสาธารณะ และการจลาจลของพวกเขาได้ลุกลามออกนอกพื้นที่รัฐสภา และพวกเขายังคงกระทำการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้"  นางบาวเซอร์กล่าว 
ขณะที่นายโรเบิร์ต คอนตี ผู้บัญชาการตำรวจของกรุงวอชิงตัน เปิดเผยว่า ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 รายรวมถึงผู้หญิง 1 คนที่ถูกตำรวจยิงในอาคารรัฐสภา ส่วนอีก 3 คนเสียชีวิตด้วยเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ผู้หญิงที่ถูกยิงเสียชีวิตในอาคารรัฐสภานั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ประท้วงที่พังประตูบุกเข้าไปในห้องที่มีการปิดกั้น และได้ถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำการอยู่ในห้องดังกล่าว 

"วอชิงตัน" ขยายภาวะฉุกเฉินอีก 15 วัน





เหตุจลาจลที่เหนือความคาดหมายในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สภาคองเกรสได้จัดการประชุมร่วมกันระหว่างวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนับผลคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีจากคณะผู้เลือกตั้ง โดยรองปธน.ไมค์ เพนซ์ ในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เป็นประธานการประชุมดังกล่าว และจะเป็นผู้ประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ โดยผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งไม่น้อยกว่า 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ก่อนที่จะเข้าทำพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.นี้

logoline