4 มกราคม 2564 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา ถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมาไทยสามารถจัดการปัญหาได้ดี ก่อนที่จะเกิดเหตุในจ.สมุทรสาคร แต่เมื่อเกิดเหตุแล้วต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน ไม่ตื่นตระหนก รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหา โดยสร้างความเชื่อมั่น เพื่อไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจ และตราบใดยังไม่มีวัคซีน ปัญหาโควิดจะยังไม่จบ และเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ตัวแปรสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศ คือ 1.การแก้ไขปัญหาโควิดต้องเอาให้อยู่ 2.การเมืองต้องนิ่ง ต้องมีเสถียรภาพ การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีความชัดเจน มีกรอบเวลาที่แน่นอน รวมถึงทุกฝ่ายมีความจริงใจจะทำให้ลดปัญหาความขัดแย้งได้ และ 3.การกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะเติบโตได้ 4 -5% สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกที่จะฟื้นตัว จากการใช้เม็ดเงิน โดยเฉพาะการจัดซื้อวัคซีน
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่รัฐบาลจะต้องกระตุ้น คือ เศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะการจ้างงาน โดยมองว่าสถานการณ์ทางการเงินของไทยยังอยู่ในวินัยการเงินการคลัง แต่หากสถานการณ์โควิดรุนแรงขึ้น รัฐบาลควรปรับเพดานหนี้สาธารณะให้มากกว่า 60% เพื่อไม่ให้กระทบกับวินัยการเงินการคลัง และมีประสิทธิภาพในการใช้เงินคืนนายสุวัจน์ ยังได้กล่าวอวยพรปีใหม่นายกรัฐมนตรีโดยขอเป็นกำลังใจพร้อมขอให้สุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาดีต่อประเทศชาติ ในการแก้ไขปัญหาต่างๆให้ลุล่วง