ฟังอีกครั้ง! "โฆษก กทม." แจงมาตรการคุมโควิด

"เนชั่น ทีวี" ได้สอบถามกับร้อยตำรวจเอก พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ได้รับคำตอบว่า มาตรการคุมเข้มโควิด-19 ที่เปลี่ยนสถานบริการ เป็นร้านอาหารนั้น ก็คือ ร้านอาหารยังสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้จนถึงเที่ยงคืน แต่จะต้องเป็นร้านที่ไม่มีการแสดงดนตรี และไม่มีการปรนนิบัติลูกค้า
ส่วนร้านที่มีการแสดงดนตรี ก็จะต้องพิจารณาตามข้อกฎหมาย ก็คือ ห้ามเต้น และแสงสว่างในร้านจะต้องส่องสว่าง (ลักษณะแบบร้านอาหารทั่วไป) สุดท้ายคือ ห้ามไม่ให้มีการเต้นรำเด็ดขาด มิเช่นนั้น จะถือว่าเข้าข่ายสถานบันเทิง 


หากอธิบายกันง่ายๆ ก็คือ ร้านอาหารหรือสถานบริการที่มีการแสดงดนตรี ยังสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ และยังคงสามารถเปิดได้ตามปกติ แต่เปิดได้ไม่เกินเที่ยงคืน และห้ามมีการปรนนิบัติลูกค้า (สาวๆ เชียร์เบียร์ หรือเชียร์อย่างอื่น) ทั้งยังห้ามเต้นรำ รวมถึงแสงสว่างภายในร้านจะต้องมีความส่องสว่างมากพอ แต่ถ้าหากมีการฝ่าฝืนจากข้อบังคับ คือ มีการเต้นรำ มีการปรนนิบัติลูกค้า แสงไฟในร้านมืดสลัว จะถือว่าเข้าข่ายสถานบันเทิงทันที

จริงๆ แล้ว มีการแยกประเภท "ร้านอาหาร" กับ "สถานบริการ" หรือที่รู้จักกันในนาม "สนามบันเทิง" เอาไว้ ใช้กฎหมายคนละฉบับ มีหลักเกณฑ์ข้อห้ามต่างกัน ซึ่งหาก กทม.ใช้วิธี "ปิดสถานบริการ" ก็จะทำให้ร้านที่จดทะเบียนเป็น "สถานบริการ" (มีขายเหล้า เบียร์ มีเต้นรำ มีคนปรนนิบัติ และเปิดได้ถึงตี 2) ต้องปิดทั้งหมด กระทบเศรษฐกิจรุนแรง 
กทม.จึงใช้วิธี เปลี่ยน "สถานบริการ" เป็น "ร้านอาหาร" เพื่อให้สถานบริการ หรือสถานบันเทิงยังเปิดได้ แต่ให้ทำเหมือนร้านอาหาร คือห้ามมีไฟสลัว ห้ามมีสาวปรนนิบัติ ห้ามเต้นรำ และให้ปิดเร็วขึ้น แต่ยังสามารถจำหน่ายเหล้า เบียร์ ไวน์ ได้เหมือนเดิม ถือว่าช่วยกันแบ่งเบา ไม่ให้กระทบแรงเกินไป