วัดดังภูทับเบิก ย้ำ "ปิดวัดไม่ได้ ปชช.หมดที่พึ่งทางใจ"

26 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงาน บนแอพพลิเคชั่นไลน์วัดป่าภูทับเบิก ซึ่งเป็นวัดชื่อดังที่ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ต.วังบาล .หบ่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โดยมีเหล่าคนดังรวมทั้งเหล่าดาราศิลปิน-นักกีฬาชื่อดัง นิยมไปปฏิบัติธรรม ได้มีการเผยแพร่การสนทนาธรรมของ พระอาจารย์วัชระ วิจิตฺโต เจ้าอาวาส "วัดป่าภูเบิก" กับลูกศิษย์ที่แสดงความกังวลและห่วงใยขอให้พระอาจารย์วัชระงดกิจ ไม่ให้พุทธศาสนิกชนเข้ากราบนมัสการสักระยะ รวมถึงให้งดรับอุบาสกอุบาสิกาที่จะเข้ามาถือศีลปฏิบัติธรรมด้วย 
ซึ่งปรากฎว่า นอกจากพระอาจารย์วัชระจะปฏิเสธคำขอของเหล่าลูกศิษย์ว่าทำไม่ได้แล้ว ยังเทศนาธรรมให้เหล่าลูกศิษย์ได้รับฟังอีกว่า "อาจารย์ทำไม่ได้หรอก เราเป็นพระ เราต้องเชื่อบุญ เชื่อกรรม เชื่อในศีลในธรรมจะไปเชื่อในเรื่องทางโลกไม่ได้ อาจารย์เป็นพระจะต้องช่วยเหลือคนที่ได้ทุกข์ ให้ทุกข์นั้นเบาบางลง นั่นคือกิจของสงฆ์"

"อาจารย์ไม่กลัวหรอก หากเป็นเช่นนั้นจริงแสดงว่าเราก็มีกรรมติดตัวมา เจ้ากรรมนายเวรก็จะมาในรูปแบบไวรัสนั่นเอง ฉะนั้นไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใด ในที่ปลอดภัยขนาดใหน หากเรามีกรรมร่วมกับไวรัสนี้อยู่เค้าก็จะตามมาทำให้เราติดเชื้อ เพื่อชดใช้กรรมนั้นอยู่ดี ในทางตรงกันข้าม หากเราไม่ได้มีกรรมเกี่ยวเนื่องกับไวรัสนี้ ต่อให้เราอยู่ในที่ที่เสี่ยงขนาดใหน เราก็ไม่มีวันติดเชื้อได้หรอกนะ คนเราต้องตายกันทุกคนถ้าถึงเวลา เราเป็นพระเราต้องเชื่อแบบนี้ถึงจะถูก"
"ในช่วงที่ผู้คนกำลังต้องการที่พึ่งทางใจแบบนี้ ลองคิดดูว่าวัดต่างๆพากันหวาดกลัวและปิดวัดไม่ให้คนเข้าไปสร้างบุญสร้างกุศล แล้วคนที่ได้ทุกข์เหล่านั้น จะไปหาที่พึ่งทางใจที่ใหนได้อีก ดังนั้นวัดจะต้องเป็นสถาบันหลักในการให้ที่พักพิงจิตใจ ให้คนสร้างบุญสร้างบุญบารมี เพื่อให้สรรพสัตว์ ผ่านวิกฤต ในครั้งนี้ไปได้ เพราะสิ่งที่จะเป็นเกราะป้องกันภยันตรายได้ทั้งหมด มีแค่ศีลเท่านั้นน่ะ"

อย่างไรก็ตามวัดป่าภูเบิก ตั้งอยู่ในเขตที่บ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัด และล่าสุดเพิ่งมีหญิงสาวนักท่องเที่ยว ซึ่งมีประวัติไปในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ก่อนจะมาเที่ยวพักค้างคืนที่รีสอร์ภูทับเบิก และหลังเดินทางกลับกทม.พบว่า นักท่องเที่ยวรายนี้ติดเชื้อโควิด-19 และแพร่ไทมไลน์ผ่านสื่อโซเซียลพร้อมคำขอโทษ จนทำให้ชาวเพชรบูรณ์เกิดอาการแตกตื่นเช็คข่าววุ่น 
ในขณะที่ทีมควบคุมและสอบสวนโรคฯหล่มเก่า ได้เข้าเคลียร์ทำความสะอาดรีสอร์ทที่ผู้ติดเชื้อฯเข้าพัก เก็บตัวอย่างผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงส่งตรวจพิสูจน์ และยังเคลียร์ร้านอาหารรวมทั้งสถานที่ที่ผู้ติดเชื้อแวะไปใช้บริการด้วย โดยล่าสุดผลแล็ปยืนยันไม่พบเชื้อในผู้สัมผัสที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ แต่ยังอยู่ระหว่างแยกกักตัวเอง 14 วัน