svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

ไม่ใช่เทพเจ้าอยู่คนเดียว! ถอดบทเรียน "ธนาธร" พินาศ! เดินเกมพลาด เลือกตั้งนายก อบจ.

23 ธันวาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รายการเรื่องลับมาก ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.20 - 15.00 น.ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (22 ธ.ค.) "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" สัมภาษณ์ "กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ" สมาชิกวุฒิสภา และ "รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว" อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กรณีการเลือกตั้งนายก อบจ. ทำไมกลุ่มก้าวหน้าร่วงหมดทั้งกระดาน

สาเหตุที่แพ้?
ดร.โอฬาร : "ประเด็นแรกผมคิดว่า คณะก้าวหน้าปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวคุณธนาธรมีความล้มเหลวเรื่องการสื่อสารให้สังคมรับรู้เรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ การที่เขาบอกปฏิรูปแต่คนในสังคมมองว่าเขาล้ม มองว่าเขาเป็นปฏิปักษ์ สองกระแสเขาตกต่ำ อาจมีเรื่องเงื่อนไข การเดินทางมาเลือกตั้ง ใกล้ปีใหม่ การค้ดสรรหาตัวคะแนนก้าวหน้าลงสมัครเลือกตั้ง หลายคนถูกตั้งคำถามว่าไม่ได้ก้าวหน้าเลย บางคนมีภาพลักษณ์เป็นนักการเมืองเก่า เป็นการเมืองที่ล้าหลังด้วย บางครั้งเขาอาจอยากเอาชนะมากเกินไป"
มองยังไง?
กิตติศักดิ์ : "ครั้งก่อนก้าวไกลมา 6 ล้านเศษ ถ้าวิเคราะห์กันจริงๆ เขาได้เสียงจริงๆ 2 ล้านเศษๆ เท่านั้น เพราะเป็นการเทคะแนนจากพรรคอื่นมาให้เขา วงการการเมืองจะทราบดี ว่าอันไหนของจริง อันไหนที่เทมาให้"

ไม่ใช่เทพเจ้าอยู่คนเดียว! ถอดบทเรียน "ธนาธร" พินาศ! เดินเกมพลาด เลือกตั้งนายก อบจ.


เขามองเขาถูกรังแกไม่เลิก คนร้องเพลงหนักแผ่นดินไล่เขา?
กิตติศักดิ์ : "ผมไปไหนไม่เห็นมีใครมาร้องเพลงไล่ผม ท่านต้องดูสิว่าท่านทำอะไรไว้ ไปสร้างเด็กแบบผิดๆ ใช้เด็กเป็นตัวแทน จริงๆ แล้วลูกหลานเราควรให้สิ่งดีงาม โดยเฉพาะเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ควรไปใส่ความคิดผิดๆ ให้เด็กบางกลุ่ม"
คุณธนาธรสื่อสารเรื่องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ผิดพลาดยังไง?
กิตติศักดิ์ : "ผมว่าเขาตั้งใจ อาจด้วยความเชื่อหรือไปศึกษาแบบ 4-5 ปี กลับมาจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ตรงนั้นเป็นการหลอกตัวเองซะมากกว่า สร้างโซเชียลขึ้นมาหวังให้เด็กเยาวชน หรือผู้คนในประเทศไทยได้เชื่อตาม แต่กลายเป็นว่าโซเชียลที่ตัวเองสร้าง ตัวธนาธรกลับไปเชื่อซะเอง"
ธนาธรเขาบอกโดนรังแก ไปไหนก็โดนร้องเพลงไล่ เขาโดนรังแกถึงแพ้?
ดร.โอฬาร : "คุณธนาธรมีความสามารถในการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ เป็นขวัญใจเด็กรุ่นใหม่และชนชั้นกลาง เขาสามารถบิวต์ความหวังผู้คนในสังคม แต่พอมาพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมเชื่อว่าเขาอยากให้สถาบันกษัตริย์อยู่อย่างทรงเกียรติให้คนเคารพศรัทธา ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเพื่อให้ทรงไว้ซึ่งเกียรติยศสูงสุด แต่กระบวนการ การสื่อสารของเขาผิดพลาด คือเวลาเขาสื่อสารไป การสื่อสารเขาทำให้การรับรู้ในสังคมมองไปอีกอย่าง พฤติกรรมการแสดงออกคนรอบข้างเขาไปในทางอื่น ก็เลยไม่แปลกที่ฝ่ายตรงข้ามจะปฏิบัติการข้อมูลแบบนี้ออกมา ทำให้เขาสื่อสารยังไงคนก็ไม่เข้าใจ มองเป็นปฏิปักษ์ นี่เป็นจุดอ่อนของเขา ประการต่อมา ใครก็ตามคิดต่างจากเขา เขาก็ตีตราว่าสลิ่ม คนคิดต่างจากเขาคือไดโนเสาร์ ล้าหลัง ผมว่าไม่เป็นธรรมกับคนคิดต่าง ในเมื่อตัวเองอ้างประชาธิปไตย ก็ต้องยอมรับความคิดต่าง"
คิดว่าเขาปฏิรูปหรือปฏิปักษ์?
กิตติศักดิ์ : "ผมคิดว่าต้องย้อนดูตัวคุณธนาธรก่อน คุณเป็นใคร คุณเป็นคนมาอาศัยผืนแผ่นดินนี้ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ใช่หรือไม่ แต่วันดีคืนดี คุณบอกจะปฏิรูปสถาบัน คุณไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิด ไม่มีค่าควรไปแตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์"
ดร.โอฬาร : "ผมยังมองโลกแง่บวก คิดว่าเขามีเจตนาปฏิรูป แต่การสื่อสารเขาทำให้คนมองเป็นการปฏิปักษ์"

ไม่ใช่เทพเจ้าอยู่คนเดียว! ถอดบทเรียน "ธนาธร" พินาศ! เดินเกมพลาด เลือกตั้งนายก อบจ.

คิดว่าเขาพลาดเพราะไปบูลลี่คนคิดต่าง?
ดร.โอฬาร : "ผมเห็นมาจากข้อมูลการสื่อสารการเลือกตั้งอบจ. ใครคิดต่างจากเขา เขาเรียกว่าสลิ่ม ไดโนเสาร์ ใครคิดต่างคือการเมืองเก่า ผมไม่เห็นด้วย นี่เป็นจุดอ่อนและเป็นปัญหา ในความเป็นประชาธิปไตยที่เขาพยายามยกย่องเชิดชู กลายเป็นลัทธิตัวบุคคล เป็นเอกะธิปไตย เป็นเทพเจ้าองค์ใหม่ที่ใครแตะต้องไม่ได้ เป็นเอกะธิปไตยที่อันตรายมาก ใครเห็นต่างกับคุณ คุณเอาทัวร์ไปลงให้ ผมคิดว่าเขาต้องถอดบทเรียน ถ้าเปิดใจกว้างและยอมรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย เขายังมีโอกาสและเวลาอีกเยอะทางการเมือง ไม่ใช่ตัวเองเป็นเทพเจ้าอยู่คนเดียว มีความสามารถอยู่คนเดียว ผมว่าอันตรายที่สุด"
ตัวบุคคลที่เห็น มองว่าเป็นคนเก่าเยอะกว่าคนใหม่ หรือคนใหม่เยอะกว่าคนเก่า?
กิตติศักดิ์ : "ผมว่ามันย้อนแย้งในตัวเอง เขาพยายามอาศัยเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ ขณะที่ความคิดย้อนไป 2475 บ้าง อาจารย์นักวิชาการที่โผล่มาสนับสนุน ก็ไม่ใช่ก้าวไกล ไม่ใช่อนาคตใหม่ มันขัดแย้งในตัวเอง การสร้างอนาคตให้ประเทศชาติใหม่ น่าจะมีวิธีคิดที่ถูกต้องและดีงามกว่านี้ แล้วถ้าบอกได้ อย่าไปแตะต้องสถาบัน จะเล่นการเมืองก็เล่นไป จะให้นโยบายให้โครงการอย่างไรก็ว่าไป แต่ถ้าท่านยังคิดแตะต้องสถาบัน ผมบอกได้เลยว่าการเลือกตั้งอบจ.ครั้งนี้ น่าจะเป็นคำตอบสำหรับคณะก้าวไกล"
การที่เขาแพ้ราบคาบ เป็นบทเรียนว่าเขาไม่ควรเดินเส้นนี้ต่อไป?
ดร.โอฬาร : "ผมว่าเขาต้องไปทบทวน ต้องทำการบ้านอีกเยอะ ต้องขยายการสื่อสาร เขาเลือกคนผิดยังไง ผมว่าเวลาคณะก้าวหน้าต้องการสร้างการเมืองใหม่ๆ สังคมอยากเห็นอุดมคติแบบเดิม หาคนรุ่นใหม่อยากทำงานในท้องถิ่น แต่วันนี้คุณธนาธรไม่ใช่นักอุดมคติ เขาเป็นนักการเมืองเต็มตัวไปแล้ว เขาอยากจะได้ชัยชนะจนหน้ามืด จนลืมอะไรหลายๆ อย่าง อย่างเช่นลืมประเมินดูว่าคนที่เขาเลือกมาไม่ใช่คอนเซ็ปต์คณะก้าวหน้า เป็นตระกูลการเมืองเดิม การเมืองแบบเก่า คุณชิงชังบ้านใหญ่ แต่ขณะเดียวกันคุณก็ร่วมมือกับบ้านใหญ่ แล้วเอาเสื้อคลุมคณะก้าวหน้ามาใส่ ประชาชนเขารู้ทัน เขาอ่านเกมออก เขาฉลาด เขาโตพอ ซึ่งผมเสียดายโอกาสมาก เสียดายคนรุ่นใหม่ที่จะสร้างตัวตน คนรุ่นใหม่ หรือคนชนกลางในจังหวัดที่เขารู้ปัญหา รู้พื้นที่ แต่ขาดโอกาสสร้างตัวตน 42 จังหวัด ผมเห็นทุกคนต้องถ่ายรูปคู่กับธนาธร ราวกับธนาธรจะไปเป็นนายกอบจ. ของ 42 จังหวัด ผมเสียดายคนหนุ่มสาวที่นั่น ผมอยากเห็นคนหนุ่มสาวสร้างตัวตน สร้างเอกลักษณ์ สร้างความเป็นท้องถิ่นและเสนอตัวให้ประชาชน และไม่ต้องรีบ ชัยชนะทางการเมือง มันไม่สามารถสำเร็จได้เพียง 1 เดือน ทำการเมืองช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป ขยายฐานมวลชน เที่ยวนี้คณะก้าวหน้าได้บทเรียนเยอะมาก ถ้าเขามีความจริงใจต่อการเปลี่ยนแปลง ต้องถอดบทเรียนและยอมรับให้ได้ว่าตรงไหนคือจุดอ่อน"

ไม่ใช่เทพเจ้าอยู่คนเดียว! ถอดบทเรียน "ธนาธร" พินาศ! เดินเกมพลาด เลือกตั้งนายก อบจ.


ที่มีโพสต์ออกมา ว่าผลการเลือกตั้งเป็นแบบนี้เพราะประชาชนยังไม่เปิดใจ และไม่พร้อมรับอนาคตใหม่ที่ดีกว่า คำพูดนี้เป็นการด่าคนเลือก?
ดร.โอฬาร : "ถ้าเป็นคำพูดเขาก็สะท้อนวิธีคิดว่าเป็นยังไง แต่เขาบอกว่าเขาไม่ได้พูด"

มีผู้สมัครของเขาที่สมุทรปราการโพสต์ใกล้เคียงกันว่าคนปากน้ำไม่พร้อมรับอนาคตใหม่ที่ดีกว่า?
ดร.โอฬาร : "ถ้าเป็นเรื่องจริง ของจริง การสื่อสารเป็นวาทกรรม สะท้อนวิธีคิด ถ้าเขาส่งสารแบบนั้นจริงๆ แสดงว่าวิธีคิดเขามีปัญหา ถ้าเรียกตัวเองเป็นอารยะ ต้องน้อมรับและเรียนรู้ว่าทำไมประชาชนคิดอย่างนั้น ไม่แปลกที่ประชาชนเลือกบ้านใหญ่ ไม่แปลกที่ชาวปากน้ำเลือกอัศวเหม คุณอย่าดูถูกประชาชน"
คุณกิตติศักดิ์คิดยังไง พวกเขาจะมาสร้างอนาคตใหม่ให้ แต่คนปากน้่ำไม่พร้อม?
กิตติศักดิ์ : "ธนาธรไม่ได้ดูตัวเอง ไปกล่าวหาว่าประชาชนไม่เปิดใจ ไม่ยอมรับ ธนาธรสร้างความเกลียดชัง เหยียบย่ำหัวใจพี่น้องประชาชนตรงนั้นหรือเปล่า คุณต้องถามตัวเอง ไม่ใช่ไปถามประชาชน ประชาชนมีหลายหูหลายตามองคุณ อย่างผมสว.สองสมัย ไม่เป็นประชาธิปไตยเหรอ กฎหมายฉบับเดียวกัน แต่กติกามันต่างกันแค่นั้นเอง"

ไม่ใช่เทพเจ้าอยู่คนเดียว! ถอดบทเรียน "ธนาธร" พินาศ! เดินเกมพลาด เลือกตั้งนายก อบจ.


หลายคนคุยกันว่าธนาธรกำลังแนะนำสิ่งดีงาม บอกว่าหมดสมัยบ้านใหญ่ กระแสใหม่กับอิทธิพลบ้านใหญ่จะหลุดออกจากกันมั้ย?
ดร.โอฬาร : "ผมว่ากลุ่มก้าวหน้าศึกษาเรื่องการเมืองบ้านใหญ่น้อยเกินไป ผมคิดว่าการที่เขาสถาปนาเป็นบ้านใหญ่เอง เขาใช้เวลา 30 ปี มีการทำวิจัยเรื่องนี้ มีการสะสมเป็นโครงข่ายสร้างอำนาจ ควบคุมพฤติกรรมการเมืองบางอย่างประชาชนเอาไว้ การเมืองบ้านใหญ่เกิดขึ้นได้เพราะโครงสร้างระบบราชการ บ้านใหญ่คือตัวกลางทำให้เขาเกิดความมั่นคง เขารู้สึกเข้าถึงทรัพยากร เข้าถึงโอกาส มีการหล่อเลี้ยงให้โครงสร้างนี้ยังคงอยู่ มีทั้งข้อดีและจุดอ่อน แต่ก้าวหน้าหรืออนาคตใหม่ มองบ้านใหญ่เป็นลบหมด พอเขาตั้งสมมติฐานพลาด การเดินเกมก็พลาด ซึ่งลืมไปว่าบ้านใหญ่ก็มีส่วนช่วยคนในจังหวัดนั้นๆ เป็นระบบอุปถัมภ์ เป็นเครือข่าย ด้านนึงจะแก้ปัญหาบ้านใหญ่ได้ต้องปฏิรูประบบส่วนราชการทั้งระบบ โดยเฉพาะระบบราชการส่วนภูมิภาค"
อิทธิพลบ้านใหญ่เป็นไง?
กิตติศักดิ์ : "ผมว่าถ้าอ้างตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ ไม่ควรเข้าทำนองเกลียดปลาไหลกินน้ำแกง หลายครั้งภาพข่าวออกมาไม่ได้เป็นอย่างที่ธนาธรและพรรคพวกได้พูดจาให้สัมภาษณ์สังคมว่าบ้านใหญ่อย่างนั้นอย่างนี้ บ้านใหญ่หรือคนอยู่ต่างประเทศบางคน ธนาธรก็ไปกระดี๊กระด๊าด้วย ถ้าหากธนาธรรังเกียจการที่บ้านใหญ่ประพฤติมา ก็ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวสุงสิง จริงๆ ผมว่าการเมือง บ้านใหญ่หรือตระกูลใหญ่ๆ ที่เป็นนักการเมือง ผมว่าแน่นอน เขาต้องมีสิ่งที่ดี ต้องทำอะไรมา"
ดร.โอฬาร : "บ้านใหญ่หลังนี้คือบ้านที่สามารถดูแลประชาชนในพื้นที่ของเขา ตั้งแต่เกิดจนตายเลยนะ ไปงานศพ งานแต่งงานเขาดูแลจนเหมือนคนในครอบครัว ตรงนี้คณะก้าวหน้าต้องถอดบทเรียนอย่างมีสติ ใจเย็นๆ ไม่ใช่ไปโจมตีเขาด้านเดียว"

ไม่ใช่เทพเจ้าอยู่คนเดียว! ถอดบทเรียน "ธนาธร" พินาศ! เดินเกมพลาด เลือกตั้งนายก อบจ.


เขายังมีอนาคตมั้ย?
ดร.โอฬาร : "เชื่อว่ายังมีอนาคต แต่เขาต้องเปิดใจให้กว้าง ต้องเป็นประชาธิปไตยจากภายในเขาให้ได้ก่อน"

logoline