คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีมติวันนี้อนุมัติงบประมาณสำหรับกระทรวงกลาโหมมูลค่า 5.34 ล้านล้านเยน หรือเกือบ 1.55 ล้านล้านบาทสำหรับปีงบประมาณ 2564 ที่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 โดยเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้น 0.5%จากปีงบประมาณ 2563 รวมทั้งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 9
นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งช่วงกลางปีนี้ให้คำมั่นว่าจะเสริมแสนยานุภาพของกองทัพตามแนวทางของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ
กระทรวงกลาโหมเตรียมจัดสรร 33,500 ล้านเยนสำหรับการพัฒนาขีปนาวุธที่ผลิตในประเทศ โดยมุ่งขยายพิสัยการยิงของขีปนาวุธต่อต้านเรือรบให้ยิงได้ไกลถึง 900 กม.แต่มีเสียงคัดค้านจากพรรคฝ่ายค้านว่า การพัฒนาและครอบครองขีปนาวุธ ที่สามารถโจมตีฐานทัพของศัตรูได้ อาจเข้าข่ายละเมิดรัฐธรรมนูญฉบับใฝ่สันติของประเทศ และนโยบายมุ่งป้องกันตัวเอง แต่โนบูโอะ คิชิ รัฐมนตรีกลาโหม ยืนยันว่า ญี่ปุ่นมีความจำเป็นต้องเสริมแสนยานุภาพเพื่อรับมือกับการเคลื่อนไหวทางทะเลที่เพิ่มมากขึ้นของจีนบริเวณรอบเกาะต่างๆทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น
นอกจากนี้รัฐบาลตั้งงบ 57,600 ล้านเยนสำหรับพัฒนาเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ในรอบ 30 ปีแทนที่รุ่นเอฟ-2 ที่เก่าแล้ว โดยโครงการนี้อยู่ภายใต้การรับผิดชอบนำโดยบริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ และมีบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน ของสหรัฐให้การสนับสนุน
รัฐบาลยังเตรียมจัดซื้อเครื่องบินขับไล่สเตลท์ เอฟ-35 จำนวน 6 ลำของล็อกฮีด มาร์ตินและเตรียมต่อเรือรบติดตั้งระบบอำนวยการรบ"เอจิส"อีก 2 ลำ