svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ส่องความรับผิดชอบผู้ร่วมงาน "บิ๊กเม้าท์เท่น"

14 ธันวาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ประเด็นดราม่างานคอนเสิร์ต "บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล" โดยเฉพาะกรณีที่ทางจังหวัดนครราชสีมา ออกมาบอกว่า ผู้จัดงานไม่สามารถจำกัดจำนวนคน และควบคุมการสวมหน้ากาก รวมถึงรักษามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมได้ "เนชั่น ทีวี" จะพาไปตรวจสอบมาตรการป้องกันโควิดภายในงาน และฟังเสียงสะท้อนจากผู้เข้าร่วมภายในงานคอนเสิร์ตครั้งนี้

คอนเสิร์ต บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล ครั้งที่ 11 ถือเป็นเทศกาลดนตรีระดับแถวหน้าของประเทศซึ่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องมีการวางมาตรการป้องกันเอาไว้อย่างรัดกุมตามแนวทางของกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข


ส่องความรับผิดชอบผู้ร่วมงาน "บิ๊กเม้าท์เท่น"


เริ่มจากมาตรการแรก ก็คือ การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อทุกพื้นที่ที่ประชาชนที่เข้าร่วมงานจะต้องสัมผัสทั้งเวทีคอนเสิร์ต ห้องน้ำ เตนท์ที่พักภายในงาน โดยมีการวางจุดบริการเจลล้างมือวางไว้ทั่วพื้นที่จัดงาน

ส่องความรับผิดชอบผู้ร่วมงาน "บิ๊กเม้าท์เท่น"


ขณะที่ ในเรื่องการดูแลรักษาความสะอาด มีถังขยะแยกเฉพาะสำหรับหน้ากากอนามัยบริเวณจุดสำคัญและทางเข้าออก  และอุปกรณ์ในการเข้าทำงานจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อ รวถึงการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในพื้นที่การจัดงาน และการเว้นระยะด้วยการแจกเสื่อขนาด 1x1 เมตร เพื่อให้ผู้ชมใช้ในการนั่งดูการแสดงพร้อมทั้งการจำกัดจำนวนคนเข้าพื้นที่เพื่อลดความแออัด

ด้านการตรวจเช็คในส่วนตัวบุคคลมีการเพิ่มทีมงานตรวจเช็ควัดอุณหภูมิทุกชั่วโมง สแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะ ที่เป็นไฮไลต์ก็คือ การตรวจเช็คด้วยอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยี ที่ชื่อว่า "Fieldwave" ซึ่งเป็นแผ่นชิปฝังอยู่ด้านหลังริสท์แบนด์ที่ผู้เข้าร่วมงานต้องสวมใส่ตลอดทั้งงานและชิปตัวดังกล่าว จะลิงค์ข้อมูลผ่านบัตรประชาชน ทำให้สามารถระบุได้ว่า ผู้ชมรายนี้อยู่โซนไหนในช่วงเวลาไหนของงานอีกด้วย


"เนชั่นทีวี" ได้สอบถามกับผู้เข้าร่วมงานรายหนึ่ง ระบุว่า ทีมงานผู้จัดคอนเสิร์ตรวมถึงเจ้าหน้าที่ในงาน ได้จัดวางมาตรการไว้อย่างรัดกุม พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราอย่างเข้มงวดแต่เมื่อถึงเวลาที่คอนเสิร์ตเริ่ม แน่นอนว่าในงานคอนเสิร์ตก็ไม่ต่างอะไรกับเวลาที่เราเดินเข้าไปในโรงอาหาร เพราะเวลาที่เข้าไปในเขตเวทีคอนเสิร์ตก็จะคุมเข้มทั้งหน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่าง แต่พอเดินออกมานอกแนวรั้วเวทีก็จะมีคนที่นั่งรับประทานอาหาร ซึ่งก็ต้องถอดหน้ากากเพื่อรับประทานอาหารเป็นธรรมดาแม้จะมีการบังคับใช้มาตรการคุมเข้มอย่างไรก็ตามสุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่จะมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากน้อยแค่ไหน


ขณะที่ ผู้เข้าชมคอนเสิร์ตอีกรายหนึ่งระบุว่า ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในงาน อาจจะไม่ใช่มาตรการป้องกันโควิด-19ที่ผู้จัดกำหนดว้าแต่เป็นความบกพร่องของคนที่เข้าชมคอนเสิร์ตเองมากกว่า เพราะระหว่างที่มีการแสดงดนตรีเจ้าหน้าที่ได้ทำการล้อมรั้วให้เข้าออกทางเดียวแต่มีบางคนที่ต้องการออกไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (หลังจากมีการประกาศห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาในบริเวณเวทีแสดง)เมื่อเดินออกไปแล้ว กลับแอบเข้ามาตามช่องทางอื่น เช่น ซอกข้างห้องน้ำและนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มกิน บางรายก็สูบบุหรี่แบบอย่างไม่สนใจผู้อื่น


นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้เกิดความผิดหวังในการจัดงานครั้งนี้ ก็คือผู้จัดงานไม่ได้มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการยุติงานในเวลา 22.00 น. แต่กลับมาประกาศก่อนเลิกงานเพียงแค่20 นาทีเท่านั้น ทำให้ผู้ที่เข้าร่วมงานหลายคนเกิดความไม่พอใจเพราะยังต้องการชมศิลปินที่กำลังจะขึ้นแสดงบนเวที

logoline