นายกรัฐมนตรีอังแกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี แถลงวันนี้หลังการประชุมร่วมกับผู้นำจาก 16 รัฐทั่วประเทศว่า เธอยากใช้มาตรการควบคุมขั้นเบากว่าเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เนื่องจากการจับจ่ายก่อนถึงช่วงเทศกาลคริสต์มาสทำให้การพบปะทางสังคมเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องออกมาตรการควบคุมเข้มงวดขึ้น
ธุรกิจร้านค้าที่ไม่จำเป็นถูกปิดระหว่างวันที่ 16 ธ.ค.-10 ม.ค.ปีหน้า ส่วนธุรกิจร้านค้าที่จำเป็น เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา ธนาคารจะยังเปิดได้ ขณะที่โรงเรียนปิดการเรียนการสอน สถานประกอบการต้องปิดทำการหรือให้พนักงานทำงานจากบ้าน งดการรวมตัวสังสรรค์ฉลองปีใหม่ ห้ามจำหน่ายพลุดอกไม้ไฟ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในสถานที่สาธารณะ ขอให้ประชาชนงดเว้นการเดินทางที่ไม่จำเป็น กำหนดเวลาเคอร์ฟิวในพื้นที่ระบาดหนักที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 200 คนต่อประชากร1 แสนคนในช่วง 7 วัน
เยอรมนีอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนมานาน 6 สัปดาห์แล้ว โดยบาร์และร้านอาหารถูกปิด ขณะที่ธุรกิจร้านค้าที่จำเป็นและโรงเรียนยังเปิดได้
สำหรับการยกระดับมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดล่าสุดมีขึ้นหลังจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ระลอกสองยังคงเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายใหม่ทำสถิติสูงสุดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 20,200 คนทำให้ยอดสะสมทะลุ 1.32 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตรายใหม่อีก 321 รายทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 21,787 ราย