"ฟาวชี"ชี้วัคซีนอาจช่วยสหรัฐ กลับสู่ปกติสิ้นปีหน้า

นพ.แอนโทนี ฟาวชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับคริส คูโอโม ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นเมื่อวันพฤหัสบดีว่า หากสามารถดำเนินการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโรคโควิด-19 ได้อย่างราบรื่น ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว อาจทำให้ชีวิตาวอเมริกันกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้อย่างเร็วในช่วงฤดูร้อนปีหน้า หรือ อย่างชัดเจนในช่วงสิ้นปีหน้าโดยเขาคาดหวังและตั้งเป้าให้ชาวอเมริกันทุกคนได้รับการฉีดวัคซีน

ก่อนหน้านั้นเขาให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันพุธว่า หากสามารถทำให้ชาวอเมริกันมากถึง 75-80% เข้ารับการฉีดวัคซีนภายในช่วงไตรมาสสองของปีหน้า ก็จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ช่วงสิ้นฤดูร้อนหรือไตรมาสสาม และอาจทำให้มีภูมิคุ้มกันหมู่มากพอปกป้องประชาชน  จนกระทั่งสิ้นปีหน้าประชาชนอาจสามารถกลับไปใช้ชีวิตในระดับใกล้เคียงกับภาวะปกติ

ขณะที่คณะที่ปรึกษาคนนอกของสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือ เอฟดีเอ มีมติเมื่อวันพฤหัสบดีแนะนำให้อนุญาตใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนีเป็นกรณีฉุกเฉิน แต่ยังต้องรอการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารของเอฟดีเอในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ขณะเดียวกันโรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มซักซ้อมเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดเก็บวัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค ที่ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิ -70 องซาเซลเซียส และการเตรียมพร้อมสำหรับการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน 

ส่วนสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐยังน่าวิตก เมื่อตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้เสียชีวิตในวันเดียวสูงสุดที่ 3,124 รายเมื่อวันพุธ ขณะที่ผู้เสียชีวิตสะสมในเวลานี้อยู่ที่เกือบ 3 แสนราย แต่ด้วยความหวังจากการฉีดวัคซีน ทำให้มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผู้เสียชีวิตสะสมจาก 539,000 รายเหลือเพียง 502,000 รายภายในวันที่ 1 เม.ย.ปีหน้า

นอกจากนี้สถาบันชี้วัดและประเมินผลด้านสุขภาพ ประเมินว่า วัคซีนจะรักษาชีวิตประชาชนได้ 25,000 คนหรือมากกว่านั้น และหากชาวอเมริกันมากถึง 95% สวมหน้ากากจะช่วยให้จำนวนผู้เสียชีวิตลดลง 56,000 รายภายในวันที่ 1 เม.ย.ปีหน้าแต่ในทางตรงกันข้าม หากแต่ละรัฐเร่งผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอาจทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 598,000 รายภายในวันที่ 1 เม.ย.ปีหน้า